fbpx
Home
|
ข่าว

นายกฯ 50% อุบัติเหตุมาจากคนขับ จี้เคารพกติกา-ไม่คุยสื่อ

Featured Image
นายกฯ เปิดสัมนาความปลอดภัยทางถนน “ทศวรรษใหม่ วิถีใหม่ฯ” ชี้ อุบัติเหตุ 50% มาจากคนขับ ย้ำไม่ได้ตำหนิใคร จี้ทุกคนเคารพกติกา งดคุยสื่อ

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน “ทศวรรษใหม่ วิถีใหม่ขับขี่ปลอดภัยต้องมาก่อน” พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “บทบาทผู้นำประเทศ” ว่า สถิติอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าพอใจแม้ว่าจะลดลงก็ตามเรามีเป้าหมายในการลดการเสียชีวิตและบาดเจ็บบนท้องถนน 12 คน ต่อ 100,000 คน ภายในปี 2570 เป็นสิ่งที่ยาก และเป้าหมาย ก็ดูว่าประเทศอยู่ตรงไหนทำได้มากน้อยแค่ไหน แต่จะทำให้ดีที่สุด คนเราก็เยอะถนนเราก็มากมาย มากกว่าหลายประเทศด้วยซ้ำ ขนาดประเทศเราก็ไม่ใช่เล็กไม่ใช่ใหญ่ ประชากร ก็หนาแน่นสิ่งเหล่านี้มีผลผูกพันเกี่ยวเนื่อง กันทั้งสิ้น

 

นอกจากการบังคับใช้กฎหมายการลงโทษและมาตรการต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะต้องนำสิ่งเหล่านี้ ต้องนำมาคิดด้วยคือคำว่าบริบทของคนไทยในปัจจุบันต้องนำสิ่งเหล่านี้ทั้งแนวคิดแนวปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลง

 

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ต้องมีเป้าหมาย ทุกวันนี้ ต้องมีเป้าหมายในแต่ละเรื่องต้องไปดูว่าแต่ละจังหวัดมีปัญหาอะไรที่แตกต่างกัน ทั้งถนนคน แนวปฏิบัติเจ้าหน้าที่ ถ้าทั้งหมดดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายเดียวกันอาจจะต้องมีวิธีการที่แตกต่างกันหรือเพิ่มเติม จึงจะสำเร็จ วันนี้ปัญหาอุบัติเหตุทางท้องถนนกระจายอยู่หลายพื้นที่ แต่ก่อนอยู่ที่ถนนสายหลักแต่ปัจจุบันเริ่มอยู่ที่ถนนสายรอง และกระจายในพื้นที่ท้องถิ่นมากขึ้น

 

ส่วนใหญ่ได้มีการเตรียมการจากเจ้าหน้าที่หลายแสนคนในแต่ละครั้งที่มีวันหยุดราชการยาวๆเฝ้าดูตลอดเส้นทาง ก็ลดลงได้ประมาณหนึ่ง โดยสาเหตุที่ตนได้รับรายงานมาอุบัติเหตุเกิดมากที่สุดจากรถจักรยานยนต์ อย่างการใช้ความเร็ว ไม่สวมหมวกกันน็อค ต้องคิดว่าจะทำอย่างไร กฎหมายมีทุกตัวเจ้าหน้าที่รู้จับได้หมด แล้วจะเอาอย่างไรถ้าจะต้องการให้ดีให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานเรียบร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นคือประเด็นของตนในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ให้นโยบายไปแล้วว่าให้มีการจับกุมทั้งหมดหากผิดกฎหมาย แล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้น

 

ให้นโยบายไปแล้วว่าให้มีการจับกุมทั้งหมดหากผิดกฎหมาย แล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้น หากต้องการให้ประชาชนยอมรับตรงนี้ นี่คือสิ่งที่ทำให้สังคมปลอดภัย หากร่วมมือกันคงไม่มีปัญหาจะต้องจับใครทั้งนั้น ไม่มีใครอยากจับไม่มีใครอยากลงโทษ และไม่อยากให้มีใครไปเสียชีวิต นี่คือสองด้านจะต้องคิด 2 ด้านออกมา หากคิดแต่ในแง่เจ้าหน้าที่รัฐ รัฐบาลคิดมาทางเดียว หากเราไม่คิดทันอีกทางหนึ่งก็ไม่สามารถที่จะทำได้ ตนบอกได้เลย เราพยายามทำมาหลายปีแล้ว เพราะฉะนั้นปฏิเสธไม่ได้ในความรับผิดชอบตนก็ต้องรับผิดชอบ

 

นายกฯระบุว่า อุบัติเหตุครึ่งหนึ่งอยู่ที่คนขับอีกเครื่องหนึ่งอยู่ที่ปัจจัยอื่น ทำอย่างไรจะแก้ครึ่งแรกให้ได้ ตนตำหนิประชาชนไม่ได้ ตนได้แต่เตือนได้แต่บอก เจ้าหน้าที่ก็ต้องช่วยกันระมัดระวัง สิ่งใดก็ตามที่พูดมาทั้งหมด ตนคิดว่าไม่มีใครไม่เห็นด้วย ทั้งการใช้มาตรการและเข้มแข็ง สวมหมวกกันน็อค จับกุมดำเนินคดี ทุกเรื่องก็เป็นความเห็นของท่าน ว่าควรจะทำได้อย่างไรแค่ไหนอย่างไร ควรจะทำหรือไม่ทำอย่างน้อยตนก็มีการรับรองว่าเขาเห็นด้วยกันนะ

 

 

 

 

เพราะฉะนั้นเขาต้องเห็นด้วยกับตรงนี้ด้วยเช่นกัน ตนยอมรับว่าแรงกดดันกดทับมาจากหลายส่วน ขณะเดียวกัน การตายก็สูงขึ้น ตายคนเดียวตนก็ยังยอมรับไม่ได้เลยทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการหาเป้าหมายให้เจอ หาวิธีการให้เจอวางแผนงานยุทธศาสตร์ ในการทำงานแต่ละระยะ แต่หากแก้ไม่ได้เหมือนปัญหาหลายเรื่องที่กำลังแก้ไขอยู่ในเวลานี้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรประชาชนจะเข้าใจ จะเห็นชอบมีส่วนร่วมด้วย ไม่ต้องเป็นภาระในการจับกุมติดคุกเสียค่าปรับ ไม่มีใครอยากทำ แต่เมื่อต้องการให้ปลอดภัยก็ต้องทำ แต่ทำแค่ไหนอย่างไรก็ต้องสร้างความเข้าใจกันออกไป สิ่งสำคัญคือการสร้างการรับรู้สร้างจิตสำนึก

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่ตนมาพูดวันนี้ไม่ได้เป็นการตำหนิใคร แต่ต้องการเล่าให้ฟังว่าตนอยู่กับปัญหาอะไรมาบ้าง และพยายามจะแก้ไขปัญหาอะไรบ้างติดปัญหาอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นต้องคิดแบบตนคิดด้วย เพราะฉะนั้นเรารู้เราอยู่กันมานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตนก็อยู่มานานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นตนแน่นอนตนรู้ปัญหา วิธีการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ทำได้แต่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะความร่วมมือยังไม่เกิด นี่คือปัญหาเช่นเดียวกับทุกปัญหาของประเทศไทย

 

ซึ่งต้องกลับมาโทษที่ตัวเองว่า  “ผมทำไม่ได้ ผมไปโทษใครไม่ได้อยู่แล้ว ก็ต้องทำต่อไป”  สิ่งที่ตนพูดในทุกวันนี้คืออยากให้ทุกคนคิดในบริบทที่กว้างกว่าเดิม หากพอยท์ไว้ 1 2 3 4 5 ก็จะกลับมาเหมือนเดิม แก้แบบเดิมอันไหนที่เป็นหลักก็ยืนไว้แต่ต้องหาปัญหาปลีกย่อยอย่างที่ตนว่าว่าจะแก้อย่างไรแก้ที่ใครแก้ตรงไหน มาตรการยึดรถชั่วคราวก็ไม่ผ่าน ไม่ต่อทะเบียน เป็นการชั่วคราวก็ไม่ให้ แล้วจะอะไรที่จะให้บังคับทำได้แค่นี้ เพราะกฎหมายคือกฎหมาย หลายคนก็นั่งในสภาอยู่ในที่นี้ก็มี ช่วยกรุณาฝากไปดูด้วย

 

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ทุกคนนั้นยอมรับกติกา สร้างการรับรู้เรียนรู้ไม่ได้อยู่ด้วยความเกลียดชัง อยู่ด้วยความเข้าใจว่าจะอยู่ร่วมกันด้วยความสันติได้อย่างไร อยู่ภายใต้กฎหมายระเบียบ การจัดระเบียบทางสังคม พร้อมกับย้ำว่าต้องหาวิธีการร่วมมือกันให้ได้ ไม่ใช่ติคนนั่นคนนู้นตินี่ติแล้วทำไม่ได้แน่นอน เป็นความรับผิดชอบของทุกคน

 

นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบทุกเรื่องเพราะมันเป็นหน้าที่หาวิธีการทำให้ได้ ค่อยๆเดินบางอย่างเดินช้า บางอย่างเดินเร็ว ถ้าไม่อยากเดินช้าก็เร่งเดินให้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกหน่อยนึง ตำรวจที่อยู่ในคณะทำงานต้องพูดให้หมด ข้อมูลอยู่ที่ไหน ไม่ใช่แก้ตัวเอาข้อเท็จจริงแถลงออกมาในห้องประชุม ให้รู้เรื่อง ว่าต้องแก้ตรงไหนอย่างไร พร้อมกับย้ำว่า ทุกอย่างอยู่ที่จิตสำนึกถึงคนอื่น ก่อนที่จะทุบที่อกข้างซ้าย 3 ครั้ง

 

ทั้งนี้ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลเสร็จสิ้น ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใดโดยเดินทางกลับในทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube