ทนายตั้ม นําสองพยานสําคัญเข้าให้การ ตร.เตาปูน พร้อมยื่นแผนผังเส้นเงินเพิ่ม ลั้น! ถึงใครเอาผิดหมด ขณะที่ น.ส.พิมพ์วิไล รับกังวล ไม่มีใครบังคับ
วันนี้(5 เม.ย. 67) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางมายัง สน.เตาปูน พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์วิไล เจ้าของบัญชีม้าเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์และสายลับคนสําคัญที่นําข้อมูลเส้นทางการเงินเกี่ยวกับการจ่ายส่วยโยงไปถึงนายตํารวจระดับสูง เข้าให้ปากคํากับพนักงานสอบสวนรวมถึงยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม
ทนายตั้ม กล่าวว่า ตนนําหลักฐานเป็นแผนผังเส้นทางการเงินที่โยงไปยังหลายหน่วยงานของตํารวจมายื่นให้ตรวจสอบเพิ่มเติมและเข้าให้การกับพนักงานสอบสวนในฐานะเป็นผู้กล่าวหานายพลตํารวจระดับสูงกับภริยาและบัญชีม้าอีก 2 คน ในความผิดฐาน ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน“ พร้อมกับนําตัวสองพยานคนสําคัญคือ น.ส.พิมพ์วิไล ที่จ่ายเงินให้บัญชีม้าที่โอนไปยังครอบครัวของนายพลตํารวจระดับสูงเดือนละ 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินค่าเว็บพนันออนไลน์ ส่วนอีกคนคือสายลับที่นําข้อมูลสําคัญมาให้กับตนเอง ขณะนี้อยู่ข้างในกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ ซึ่งไม่ขอเปิดเผยตัวตน เนื่องเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัย รวมถึงวันนี้ได้นัดหมายให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. มาสอบปากคําสายลับที่ สน.เตาปูน หลังวานนี้นัดหมายเข้าพบที่ บก.ปปป. แต่เจ้าตัวกังวลเรื่องความปลอดภัยจึงไม่ได้ไปตามนัด
โดยทนายตั้ม ระบุว่า น.ส.พิมพ์วิไล เป็นพยานสําคัญและอนาคตอาจจะตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งก่อนหน้านี้คุยกันแล้วว่ายังไงก็คงต้องถูกดําเนินคดีจึงขอให้เปิดเผยข้อมูลที่มีทั้งหมดว่าจ่ายส่วยให้ใครอย่างไรบ้าง รวมถึงสายลับก็จะให้การเช่นเดียวกันว่าทํางานอยู่กับใคร กลุ่มไหน และจ่ายเงินให้ใครบ้างพร้อมหลักฐานแชทการสนทนาและการเบิกจ่ายเงินทั้งหมดมอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตนแถลงข่าวนั้นมีทุกอย่างรองรับ ส่วนจะมีการจ่ายเงินให้กี่หน่วยงานหรือมีหน่วยงานอื่นๆที่ไม่ใช่ของตํารวจหรือไม่ เป็นหน้าที่ของตํารวจในการสืบสวนต่อ หากพบใครที่อยู่ในแผนผังเส้นเงินดังกล่าวไม่ว่าจะสนิทกันขนาดไหนก็ต้องถูกดําเนินคดีทั้งหมด
ด้านทนายความของ น.ส.พิมพ์วิไล กล่าวว่า การเดินทางเข้าให้ข้อมูลในวันนี้ของ น.ส.พิมพ์วิไล เป็นข้อมูลตามพยานเอกสารหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้ ไม่ใช่การพาดพิงถึงใครคนใดคนหนึ่ง
ขณะที่ น.ส.พิมพ์วิไล ระบุว่า การโอนทั้งหมดมีหลักฐานเป็นสเตทเม้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามยอมรับว่ามีความกังวลใจเพราะฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงนายตํารวจระดับสูง แต่การออกมาในวันนี้ไม่มีใครบังคับเต็มใจที่จะออกมาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดด้วยตัวเอง ซึ่งยืนยันว่าใช่การกลั่นแกล้งใครเพราะเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด และหากอนาคตจะต้องถูกดําเนินคดี ก็พร้อมที่จะยอมรับ ส่วนรายละเอียดทางคดียังไม่ขอตอบ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า “ยังไงความจริงก็คือความจริง“
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
