fbpx
Home
|
อาชญากรรม

เด็กอายุ 11 ถูกเพื่อนจับทุ่มขาหัก 2 ท่อน คดีไม่คืบ

Featured Image
ทนายรณณรงค์ พาผู้เสียหายร้อง ผบช.ภ.1 ติดตามคืบหน้าคดีเด็กชายวัย 11 ปี ถูกเพื่อนร่วมห้องทำร้ายร่างกาย จนขาหักสองท่อน

 

 

วันนี้ (25 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมนาย ณัชฐ์ปกรณ์ (สงวนนามสกุล) บิดาของเด็กชายอายุ 11 ปี ที่ถูกเพื่อนร่วมห้องทำร้ายร่างกาย จนขาหักสองท่อน ผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้า ทางโรงเรียนปัดความรับผิดชอบและไร้การเยียวยาจากคู่กรณี โดยเหตุเกิดภายในโรงเรียนเอกชนชื่อดังย่านรังสิต เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 เพื่อขอให้ดำเนินการติดตามความคืบหน้าในคดี เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

 

นายณัชฐ์ปกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ที่มาอยากให้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 ช่วยเหลือตามคดีเนื่องจากลูกชายถูกทำร้ายร่างกายจากเพื่อนในห้องเดียวกัน ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ไม่มีใครออกมารับผิดชอบ ทั้งโรงเรียน ผู้ปกครองของเด็กที่ทำร้าย วันเกิดเหตุคุณครูโทรมาบอกว่าน้องพอร์ชขาหัก จึงรับมาโรงพยาบาลเห็นลูกนอนร้องไห้ นอนรอหมอกระดูกบนเตียง หลังจากนั้นหมอได้ทำการเข้าเฝือกปูนอย่างหนา ลูกชายเล่าให้ตนฟังว่าโดนเพื่อนคู่กรณีทุ่มจากด้านหลัง เอาผ้าขนหนูมาตีที่หลัง 3-4 ครั้ง จนไปโดนหู น้องพอร์ชจึงตีคืน ภาพที่ตนเห็นในห้องวงจรปิดคือทั้งน้องพอร์ชและเด็กคู่กรณีต่างคนต่างเอาผ้าขนหนูตีกัน หลังจากนั้นน้องพอร์ชหยุดและเดินมานั่งที่เดิม เด็กคู่กรณีมีน้ำหนักเยอะกว่าได้จับน้องพอร์ชทุ่มจากด้านหลังแล้วนั่งทับ ภาพในกล้องวงจรปิดถูกตัดออก หลังจากนั้นมีเด็กวิ่งไปแจ้งคุณครูและนำตัวน้องพอร์ชส่งโรงพยาบาล

 

 

ซึ่งตนติดต่อฝั่งผู้ปกครองของเด็กคู่กรณี หรือทางโรงเรียนก็ไม่เคยมีการติดต่อกลับมา ติดต่อไปยังผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่ให้คุย บอกว่าต้องทำเรื่องขอคุย ถ้าเรื่องไม่สมเหตุสมผลทางผู้บริหารจะไม่คุยด้วย ตนจึงตัดสินใจไลน์ไปยังคุณครูที่ติดต่อกันประจำ ทั้งตัดพ้อ การสอบถามเรื่องการเรียนที่ต้องหยุดเรียนเป็นเดือน น้องพอร์ชเหมือนถูกทิ้ง คุณครูไม่เคยบอกว่าน้องพอร์ชจะเรียนให้ทันเพื่อนยังไง น้องพอร์ชไม่ได้สอบกลางภาค ตนสอบถามไปทางคุณครูบอกว่าให้หายดีแล้วค่อยมาสอบถามอีกที ตนเข้าใจว่าทางโรงเรียนไม่ได้สนใจลูกตนเลย

 

ยังมีข่าวลือในโรงเรียนว่าน้องพอร์ชเป็นคนผิดและเด็กคู่กรณีเป็นฝ่ายถูก ซึ่งทางฝั่งเด็กคู่กรณีก็ไม่ได้รับการลงโทษใดๆ ผู้ปกครองยังไปส่งลูกเรียนตามปกติที่โรงเรียนทุกวัน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อนในห้องบางคนก็ไม่รู้ว่าน้องพอร์ชหายไปเพราะอะไร มันบีบหัวใจตน น้องพอร์ชเป็นฝ่ายถูกกระทำ ซึ่งพนักงานสอบสวนส่งหมายขอภาพจากกล้องวงจรปิดก็ไม่ให้ ทำหมายเรียกคู่กรณีพร้อมกับภาพวงจรปิดครั้งแรกก็ไม่มา ครั้งที่สองมาพร้อมกับแจ้งว่าจะคิดต่อกลับหาตนตั้งแต่ 3 สัปดาห์ที่แล้วจนป่านนี้ก็ยังไม่ติดต่อมา ถามพนักงานสอบสวนมาว่าจะต้องทำยังไง เท่าที่เคยได้ยินต้องออกหมายจับใช่หรือไม่ พนักงานสอบสวนก็หัวเราะและตอบกลับว่าจะให้ออกหมายจับได้อย่างไรในเมื่อเป็นคดีเด็ก ตนถามกลับว่าหากไม่ทำแบบนี้แล้วจะต้องทำอย่างไร พนักงานสอบสวนตอบว่าขอไปคิดก่อนว่าจะทำอย่างไร คลิปที่ได้มาคือแอบถ่าย ยกมือถือขึ้นมาได้ 3 วินาที ก็โดนคุณครูที่อยู่ในห้องตำหนิว่าถ่ายไม่ได้นะคุณพ่อ ทางผู้บริหารไม่ให้ถ่าย ตนจนมาขอความช่วยเหลือจาก ทนายรณณรงค์ ให้ช่วยเหลือตามคดีให้เพราะอยากได้รับความเป็นธรรม

 

ทนายรณรงค์ กล่าวต่อว่าตามข้อกฎหมายการทำร้ายร่างกายหรือการรับโทษทางอาญา หากอายุไม่ถึง 12 ปี ไม่ต้องรับโทษทางอาญา แต่จะมีวิธีดำเนินคดีของเด็กและเยาวชน ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางตำรวจ เพราะทางตำรวจได้ทำตามหน้าที่แล้ว โดยปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย เนื่องจากล่าสุด ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ภาพวงจรปิดมาแล้ว

 

แต่ในทางคดีแพ่ง ผู้ปกครองของเด็กคู่กรณีและโรงเรียนต้องรับผิดชอบ เนื่องจากเป็นการกระทำของเด็กที่อยู่ในความดูแลของผู้ปกครองและสถานที่เกิดเหตุเป็นที่โรงเรียน ซึ่งในเวลานั้นต้องมีคุณครูเข้ามาดูแลความเรียบร้อย แต่เท่าที่ทราบพบว่าในห้องขณะเกิดเหตุ ไม่มีคุณครูอยู่ดูแล ดังนั้น โรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณีจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจภูธรภาค 1 ได้ประสานกับทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเรียกโรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณี มาร่วมพูดคุยเพื่อตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยค่าสินไหมทดแทนในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ คาดหวังว่าจะสามารถพูดคุยกันได้ลงตัว แต่หากโรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณียังนิ่งเฉยอีก ก็เตรียมที่จะฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทางแพ่งในมูลฐานละเมิดต่อไป

 

พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นตัวแทน ผบช.ภ.1 มารับมอบหนังสือแทน กล่าวเพิ่มเติมว่าในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ จะประสานกับโรงเรียนและผู้ปกครองของเด็กคู่กรณี มาพูดคุยร่วมกับทางตำรวจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี และศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานี เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยและหาทางเยียวยารับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ส่วนในเรื่องของคดีอาญานั้น จากการตรวจสอบกับผู้กำกับการ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ระบุว่าได้ดำเนินการออกหมายเรียกตามขั้นตอนของกฎหมายวิธีพิจารณาความเด็กแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนและผู้ปกครองเด็กคู่กรณีเท่าที่ควร ยืนยันว่าทางตำรวจให้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะการขอภาพวงจรปิด ซึ่งตอนนี้ทางโรงเรียนก็เพิ่งส่งมอบให้กับทางตำรวจเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามตาม ตำรวจภูธรภาค 1 จะรับเรื่องจากทนายรณณรงค์ ไปดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube