fbpx
Home
|
ข่าว

นายกฯย้ำให้ความสำคัญตลาดทุน เปิด3แนวทางสร้างจุดแข็ง

Featured Image

 

 

 

นายกฯ ย้ำให้ความสำคัญตลาดทุน เปิด 3 แนวทางสร้างจุดแข็ง ดึงดูดการลงทุนต่างประเทศ-ให้ความสำคัญความยั่งยืน-หนุนการระดมทุนภาคธุรกิจให้ก้าวสู่ระดับโลก

 

 

 

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในงานสัมมนาแถลงยุทธศาสตร์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประจำปี 2567 โดยระบุว่า ที่ผ่านมาตลาดทุนไทย เผชิญกับความท้าทายระยะสั้น ทั้งสถานการณ์ความผันผวนของโลก และประเด็นความท้าทายด้านความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุนในประเทศ และต่างประเทศ ส่งผลให้ดัชนีราคาหุ้น ปรับตัวลดลงอย่างมาก แต่เมื่อดูจากปัจจัยพื้นฐานของตลาดทุนไทย ก็จะเห็นได้ว่า ตลาดหุ้นไทย ยังมีความแข็งแกร่งในระยะยาว และมีความยืดหยุ่นสูง ไม่ว่าจะเป็นจากมูลค่าหลักทรัพย์ซึ่งติดอันดับที่ 27 ของโลก จากทั้งหมด 84 แห่ง และตลาดหุ้นไทยยังมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3  ของอาเซียน อีกทั้งยังมีมูลค่าเสนอขายหุ้น IPO สะสมย้อนหลัง กับสภาพคล่องที่สูงที่สุดในอาเซียน นับตั้งแต่ปี 2555

 

 

 

 

 

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า วันนี้รัฐบาลเห็นถึงโอกาสในการ “พัฒนาตลาดทุน” เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลง ที่กำลังจะมาถึง ทั้งด้านดิจิทัล และด้านความยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลต่อทั้งต่อระบบตลาดทุน ระบบเศรษฐกิจโดยรวม และความเป็นอยู่ของประชาชน และจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยตลาดทุนไทยมีบทบาทสำคัญ เพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว ทั้งผ่านการยกระดับช่องทางระดมทุน และการบริการให้กับภาคธุรกิจและประชาชน ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

 

 

 

 

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความยั่งยืนที่เห็นได้เป็นรูปธรรม คือ การจัดตั้ง “Thailand ESG Fund” ซึ่งประเทศไทย มีจุดเด่นในเรื่องเหล่านี้ จากบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับคัดเลือกเข้าสู่ดัชนีความยั่งยืนในระดับสากลที่มีเป็นจำนวนมาก ขณะที่ ภาครัฐเอง ได้ออกพันธบัตรสีเขียว หรือ Green Bond และในอนาคต จะมีการระดมทุนไปดำเนินกิจกรรมเหล่านี้มากขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชน ภาครัฐจึงให้ความเห็นชอบ Thailand ESG Fund ที่จะเป็นประโยชน์ ทั้งต่อผู้ระดมทุน ในการต่อยอดสร้างโอกาสทางธุรกิจกิจสู่ความยั่งยืน

 

 

 

 

 

นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผย 3 แนวทาง 3 ข้อ ที่จะเสริมสร้างจุดแข็งของตลาดทุนไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นต่อไป ได้แก่ “การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ” ผ่านการผลักดันให้ตลาดทุนไทย เป็นจุดหมายปลายทางการลงทุน หรือ Investment Destination ของภูมิภาค เพื่อเพิ่มการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยรัฐบาล จะเดินหน้าเร่งเจรจาและขยาย FTA หรือ Free Trade Agreement ในตลาดใหม่ ๆ และสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับนานาประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมทั้งส่งเสริมการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ให้กับผู้ลงทุนต่างประเทศ ผ่าน Ease of Doing Business และรัฐบาล จะดำเนินการนำเสนอข้อมูลการลงทุนของตลาดหุ้นไทย ผ่านการโรดโชว์ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น ให้กับผู้ลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง, รวมถึง “การยกระดับความสำคัญ หรือ Shift Focus สู่ความยั่งยืน

 

 

 

 

 

โดยรัฐบาลจะสนับสนุนทุกภาคส่วน เพื่อเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง สู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainability Development Goals หรือ SDGs ซึ่งเป็นเป้าหมายของประเทศไทย ด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality ภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2608 ซึ่งในการดำเนินการสู่ความยั่งยืนนี้ รัฐบาล จะดำเนินการส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยพัฒนากลไกให้ภาคธุรกิจ มีเงินทุนเพียงพอ ในการเปลี่ยนผ่าน สู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และให้ธุรกิจขนาดเล็ก เข้าถึงองค์ความรู้ เทคโนโลยี และมีเงินทุนเพื่อปรับตัวให้พร้อมรับมือกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมต่อไป

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube