fbpx
Home
|
ภูมิภาค

จับกุมแกงค์ชาวต่างชาติหลอกรักทางออนไลน์

Featured Image

 

จับกุมแก๊งชาวต่างชาติหลอกรักทางออนไลน์ มีหญิงสาวชาวไทยถูกหลอกนับร้อยราย มูลค่าความเสียหายกว่า 120 ล้านบาท

 

พลตำรวจโท สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยพันตำรวจเอก สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งหลอกรักทางออนไลน์ ได้ผู้ต้องหา 6 คน ประกอบด้วย น.ส.สถาพร อายุ 35 ปี, นายสุทิน อายุ 30 ปี, นายศรนรินทร์ อายุ 39 ปี, นายอาทิตย์ อายุ 19 ปี, น.ส.สมาน อายุ 40 ปี, และนายพงศธร อายุ 23 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

 

 

โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน พร้อมยึดของกลางเป็นเงินสดกว่า 5 แสนบาท บัตรเอทีเอ็มของธนาคารต่างๆ หลายใบ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือหลายเครื่อง รวมทั้งรถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน

 

โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก เกี่ยวกับการที่หญิงสาวผู้เสียหายหลายรายถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกให้หลงเชื่อ ด้วยการปลอมแอบอ้างเป็นชาวต่างชาติผิวสีเพื่อหลอกให้ผู้เสียหายหลงรัก โดยติดต่อกันตามช่องทางโลกออนไลน์ และใช้อุบายว่า จะส่งเงินทองหรือสิ่งของมีค่ามาให้ผู้เสียหาย แต่ติดปัญหาในการส่งสิ่งของหรือการเดินทางมาพบกัน โดยให้ผู้เสียหายช่วยเหลือโอนเงินไปให้เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ

 

 

ซึ่งเหยื่อผู้เสียหายกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นหญิงไทยอายุมาก รวมไปถึงชายไทยบางส่วนที่ต้องการมีสามีหรือภรรยาเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งจากการสืบสวนรวบรวมหลักฐานพบว่า มีหญิงสาวผู้เสียหายชาวไทยถูกหลอกลวงเป็นจำนวนหลายร้อยราย และมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ โดยกลุ่มมิจฉาชีพแก๊งนี้มีพฤติกรรมหลอกลวงเหยื่อมานานกว่า 4 ปีแล้ว รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 120 ล้านบาท

 

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า กลุ่มมิจฉาชีพแก๊งนี้จะแบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยมีกลุ่มชายชาวต่างชาติผิวสีติดต่อหลอกลวงเหยื่อที่เป็นหญิงสาวชาวไทย ผ่านทางช่องทางออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊ก และไลน์ โดยชายต่างชาติก็จะพูดคุยหลอกล่อเหยื่อให้โอนเงินไปให้เพื่อแก้ไขปัญหาในการส่งสิ่งของ โดยให้เหยื่อโอนเงินไปให้ในบัญชีธนาคารของผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชี จากนั้นก็จะมีไปผู้ทำหน้าที่ไปกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็ม และโอนเงินต่อไปให้ น.ส.สถาพร เรือนปานันท์ เพื่อทำหน้าที่แบ่งเงินที่หลอกเหยื่อมาได้ไปให้กับผู้ร่วมขบวนการ

 

 

 

น.ส.สถาพร หนึ่งในผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันตนไม่ได้ประกอบอาชีพใดเป็นหลักแหล่ง แต่มีรายได้จากการหลอกลวงผู้อื่น โดยเมื่อประมาณปี 2560 ตนได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย และได้รู้จักกับชายชาวต่างชาติ ซึ่งจะกลุ่มผู้หลอกลวงผู้เสียหาย ตนจึงตกลงเข้าร่วมขบวนการ และตนเองมีหน้าที่จัดหาบัญชีในการโอนเงิน และหาคนทำหน้าที่กดเงิน ซึ่งเมื่อได้เงินจากการหลอกเหยื่อมาแล้ว ตนก็จะทำหน้าที่แบ่งเงินส่วนต่างๆ และโอนเงินต่อไปให้กับผู้ร่วมขบวนการซึ่งมีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube