fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

คลังสัมมนาสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการคุ้มครองเงินฝากฯ

Featured Image
คลังจัดสัมมนาวิชาการสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องการคุ้มครองเงินฝากและการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน

 

 

 

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยผลการสัมมนาวิชาการสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องการคุ้มครองเงินฝากและการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน หัวข้อ “คุ้มครองการเงินไทยในยุค Next Normal” ครั้งที่ 5/2565 ที่จัดขึ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 เวลา 12.00 – 16.30 น.

 

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความมั่นใจในประเด็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ทั้งในด้านการคุ้มครองเงินฝาก การตรวจสอบข้อมูลเครดิต การคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ผลิตภัณฑ์การลงทุน และการค้ำประกันสินเชื่อแก่ SMEs เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถบริหารจัดการทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมสัมมนาและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี

 

โดยมีผู้เข้าร่วมการสัมมนาจำนวน 283 คน ประกอบด้วย ส่วนราชการผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารเจ้าหน้าที่และลูกค้าของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ สหกรณ์ และผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดตาก

 

โดยมีนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นผู้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ บทบาทของกระทรวงการคลังกับนโยบายระบบการคุ้มครองผลประโยชน์ทางการเงิน ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน บทบาทของกระทรวงการคลังในการดำเนินนโยบายด้านการคุ้มครองผลประโยชน์ทางการเงินเพื่อเสริมความมั่นคงให้แก่ระบบการเงินของประเทศทั้งในด้านการคุ้มครองเงินฝาก การดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา และการกำกับดูแลระบบการประกันภัยการสัมมนาดังกล่าว ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ

 

ประกอบด้วย 1) นางปิยาภรณ์ โพธิ์กลิ่น ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายกลยุทธ์และบริหารความเสี่ยง สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) 2) นางวีระนงค์ ฉ่ำทรัพย์ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด 3) นายชนินทร์ เพชรไทย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคเหนือ 4) นางสาวสาริกา อภิวรรธกกุล ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมความรู้ตลาดทุนและศูนย์ประสานงานต่างจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และ 5) นายชูศักดิ์ นันทสุวรรณ ผู้จัดการเขต สำนักงานเขตภาคเหนือตอนล่าง บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยมี นายประยุทธ ไหวดี เศรษฐกรปฏิบัติการ กองนโยบายระบบการคุ้มครองผลประโยชน์ทางการเงิน สศค. ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ สาระสำคัญของการสัมมนา ประกอบด้วย

 

1) ระบบการคุ้มครองเงินฝากในภาพรวม บทบาทของ สคฝ. เป็นหน่วยงานในโครงข่ายความมั่นคงทางการเงินและเป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของรัฐ หน้าที่สำคัญของ สคฝ. ได้แก่ เป็นกรรมการควบคุมเมื่อสถาบันการเงินเกิดปัญหา การจ่ายคืนผู้ฝาก และการชำระบัญชี ด้านการคุ้มครองเงินฝาก คุ้มครองวงเงินจำนวน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน ซึ่งวงเงินคุ้มครองดังกล่าวสามารถคุ้มครองผู้ฝากเงินเต็มจำนวนได้มากกว่าร้อยละ 98 ของผู้ฝากเงินทั้งหมด ในสถาบันการเงินทั้งหมด 33 แห่ง ที่ได้รับความคุ้มครอง พร้อมทั้งยกตัวอย่างการจ่ายคืนบัญชีร่วมตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของ การจ่ายคืนเงินฝากผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนหรือเช็คทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ในบัตรประชาชน เป็นต้น ส่วนผู้ฝากที่มีเงินเกินกว่าวงเงินคุ้มครองจะได้รับเงินคืนเพิ่มเติมภายหลังจากการชำระบัญชี นอกจากนี้ สคฝ. ยังได้เสริมความรู้ด้านการออมเงิน การบริหารจัดการทรัพย์สินเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ

 

2) การดำเนินงานและกลไกการกำกับดูแลของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร ประกอบด้วย การทำความเข้าใจพื้นฐานและข้อมูลที่ใช้พิจารณาการกู้เงิน ข้อมูลเครดิตซึ่งสะท้อนจากประวัติการชำระหนี้และการผิดนัดชำระหนี้ของบุคคล วิธีการทำความเข้าใจรายงานข้อมูลเครดิต โดยข้อมูลเครดิตที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลของเครดิตบูโรมี 2 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตนของลูกค้า ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติและประวัติการชำระสินเชื่อ ซึ่งเก็บข้อมูลไว้ย้อนหลังไม่เกิน 3 ปี พร้อมทั้งแนะนำวิธีการตรวจสอบเครดิตบูโรด้วยตนเองผ่านทางออนไลน์ แอปพลิเคชัน ”ทางรัฐ” ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากขึ้นเพราะสามารถรับข้อมูลเป็นไฟล์ผ่านทางอีเมล โดยลูกค้าควรหมั่นตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตนเองปีละ 1 – 2 ครั้ง และเน้นย้ำว่า บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ไม่ได้มีหน้าที่ขึ้นแบล็คลิสต์จากข้อมูลที่สถาบันการเงินส่งให้

 

3) ธปท. กับการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุผลและประโยชน์จากการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน และกระบวนการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินของ ธปท. ประกอบด้วย งานให้คำปรึกษาและรับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) สายด่วน 1213 โดยภาคเหนือมีสถิติภาพรวมการให้คำปรึกษาและรับเรื่องร้องเรียนการใช้บริการผ่านทางออนไลน์มากที่สุด โดยเฉพาะข้อร้องเรียนกรณี การให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ไม่ครบถ้วน ซึ่งการขายผลิตภัณฑ์ที่ดีควรให้ข้อมูลลูกค้าครบถ้วนและโปร่งใส ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการทางการเงินมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง สิทธิที่จะเลือกใช้บริการได้อย่างอิสระ สิทธิที่จะร้องเรียนเพื่อความเป็นธรรม และสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาค่าชดเชยหากเกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังประชาสัมพันธ์โครงการของ ธปท. เพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน เช่น หมอหนี้เพื่อประชาชน เพื่อให้คำปรึกษาแก่ลูกหนี้ทั่วไปและผู้ประกอบธุรกิจ มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ออนไลน์ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยอย่างต่อเนื่องและตรงจุด เป็นต้น

 

4) การลงทุนเพื่อความมั่นคงทางการเงิน มีเนื้อหาเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของสำนักงาน ก.ล.ต. ความรู้เกี่ยวกับตลาดทุนไทยในภาพรวม ความสำคัญของการลงทุนและการเก็บออมเพื่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ และการเริ่มลงทุนด้วยหลัก 3 รู้ ได้แก่ (1) รู้เรา คือ รู้ความสามารถของตนในการรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ในระดับใดและรู้เป้าหมายการเงิน (2) รู้เขา คือ รู้จักผลิตภัณฑ์ที่จะเข้าไปลงทุนว่ามีการจ่ายผลตอบแทนและความเสี่ยงระดับใด และ (3) รู้ระวัง คือ รู้จักวิธีปกป้องเงินออมจากภัยการเงิน โดยยกตัวอย่างภัยกลโกงในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงได้ให้ความรู้เกี่ยวกับประเภท ความเสี่ยงและผลตอบแทนของทรัพย์สินทางการเงิน เช่น ตราสารทุน ตราสารหนี้ กองทุนรวม สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นต้น ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ประชาสัมพันธ์แอปพลิเคชัน “SEC Check First” เพื่อตรวจสอบรายชื่อบุคคลและผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ช่องทางการเรียนรู้ ก.ล.ต. ที่เว็บไซต์ www.smrttoinvest.com และ facebook start-to-invest และท้ายที่สุดได้ย้ำว่าควรกระจายความเสี่ยงโดยเลือกลงทุนให้มีความหลากหลาย ไม่ควรทุ่มการลงทุนในทรัพย์สินประเภทเดียว

 

5) บทบาทและภารกิจของ บสย. ในการให้บริการค้ำประกันสินเชื่อแก่ SMEs ที่มีศักยภาพแต่ขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืม โดย SMEs ดังกล่าวต้องผ่านการคัดกรองความเสี่ยงตามเกณฑ์ที่ บสย. กำหนด จากนั้น บสย. จะพิจารณาคำขอค้ำประกันสินเชื่อร่วมกับการอนุมัติสินเชื่อตามหลักเกณฑ์ของธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ ยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. ซึ่งมีความแตกต่างกันในเรื่องวงเงิน ค่าธรรมเนียม และประเภทธุรกิจของลูกค้า เช่น โครงการเติมเต็มรายย่อยฟรีค่าธรรมเนียม ๓ ปี เป็นต้น โดยสรุป การสัมมนาวิชาการสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องการคุ้มครองเงินฝากและการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน เป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผลประโยชน์ทางการเงิน อันจะสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและระบบเศรษฐกิจในภาพรวม

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube