ผบก.น.5 ขอรอครอบครัว “น้องโยโกะ” เข้าพบ 17 ม.ค.นี้ เพื่อตอบข้อสงสัยให้กระจ่าง ยังให้น้ำหนักไปที่การทำร้ายตัวเองจนเสียชีวิต หลังพบ “ไซยาไนด์-ข้อความสั่งลา” ในที่เกิด
พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยคดีของน้องโยโกะ พริตตี้สาว เสียชีวิตปริศนาและผลชันสูตรพบสารไซยาไนด์ว่า เบื้องต้นได้รับการประสานจากทางแม่ของน้องโยโกะว่า จะเดินทางเข้ามาพบกับทางตำรวจที่ สน.คลองตัน ในวันพุธที่ 17 มกราคมนี้ เวลา 09.00 น. ในวันนี้จึงยังไม่อยากพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับคดีมาก เพราะขอรอทางครอบครัวของน้องโยโกะเข้ามาพบก่อน เพื่อตอบข้อสงสัยในแต่ละประเด็น หลังจากนั้นถึงจะมีความชัดเจนให้
ส่วนประเด็นการเสียชีวิต เบื้องต้นยังให้น้ำหนักไปที่การทำร้ายตัวเองจนเสียชีวิต อันเนื่องจากพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ ทั้งตู้เซฟที่ภายในตู้พบขวดไซยาไนด์ 1 ขวด และยากล่อมประสาทที่ใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้า (กินหลายเม็ดก่อนหน้านี้ 4-5 ครั้ง) จึงสันนิษฐานได้ว่าผู้ตายได้ดื่มยาพิษเข้าไป เนื่องจากผลตรวจเลือดเบื้องต้น
พบว่ามีสารไซยาไนด์ในเลือดปริมาณ 1.26 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ซึ่งถ้าหากได้รับสารพิษเข้าไปในปริมาณมากขนาดนี้ จะเสียชีวิตภายใน 30 นาทีทันที ประกอบกับจากการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ตาย ในช่วงเวลา 08.56 น. มีการพิมพ์ข้อความในโน๊ตสั่งลาฝ่ายชาย และการค้นหา “ไซยาไนด์” ในแอพพลิเคชั่นหนึ่ง ตลอดจนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในคอนโด ไม่พบว่าผู้ตายออกไปไหนหรือมีใครเข้าไปก่อนเกิดเหตุ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่สังคมสงสัยโดยเฉพาะเวลาที่น้องโยโกะถึงโรงแรม และเข้ามากดเปิดลิฟท์ในช่วงเช้าของวันที่ 31 ตุลาคม 2566 เวลา 06.43 น. และภาพต่อเนื่อง คือ เวลา 07.20 น. เดินอยู่ในโรงแรม ไม่แน่ชัดว่าใช่ชั้น 6 ที่น้องโยโกะอยู่หรือไม่ แต่ทั้งๆ ที่น่าจะถึงห้องภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที เวลาในกล้องปรากฎว่ากลับทิ้งห่างถึง 33 นาทีเลย จึงเป็นข้อสงสัยว่าเวลาคลาดเคลื่อนหรือมีภาพบางภาพหายไปหรือไม่นั้น / เรื่องนี้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ยืนยันว่ายังไม่ขอเปิดเผย แต่เรื่องนี้มีคำตอบและเป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดแปลกอะไร รอชี้แจงกับทางครอบครัว
อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ฝ่ายชายและทนายความได้เดินทางเข้าพบตำรวจที่ สน.คลองตัน ในช่วงเวลา 22.00 น. ด้วย เพื่อให้ข้อมูลกับทางตำรวจ พร้อมยังยืนยันในคำให้การเดิม โดยเฉพาะข้อมูลร่องรอยฟกช้ำบนร่างกายของน้องโยโกะ เกิดจากการทะเลาะกันแล้วมีการฉุดกระชาก ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ไม่ได้เป็นร่องรอยของการหวังทำร้าย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews