fbpx
Home
|
อาชญากรรม

หลวงพ่อขอบิณฑบาต โดนหลอกดูดเงินบริจาค 1.5 แสน

Featured Image
หลวงพ่อขอบิณฑบาต เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกดูดเงินบริจาคกว่า 1.5 แสนบาท วอนตำรวจเร่งช่วย

 

 

 

 

 

 

วันนี้ ( 21 ต.ค.2566 ) นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก พระเอกฉลวย จันชัง อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในอ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์อ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน จะสอบถามรายละเอียดและช่วยประสานงานเรื่องการโอนโฉนดที่ดินจากชื่อพระเอกฉลวยให้เป็นโฉนดที่ดินของวัด ตามที่ได้ยื่นเรื่องไว้กับทางสำนักงานที่ดิน สาขาบางบัวทอง

 

 

 

แต่พระเอกฉลวยจำน้ำเสียงของมิจฉาชีพรายนี้ได้ว่าเป็นคนคนเดียวกับที่เคยโทรมาหลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน และให้กดรายละเอียดในโทรศัพท์มือถือ จนเงินในบัญชีของวัดถูกดูดโอนไปเป็นเงินเกือบ 1.5 แสนบาท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงเกรงว่าทางวัดจะถูกหลอกดูดเงินในบัญชีไปอีกจึงร้องขอความช่วยเหลือ

 

 

 

พระเอกฉลวย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา บัญชีเงินของทางวัดถูกคนร้ายดูดเงินออกไปประมาณ 1.5 แสนบาทแล้ว อาตมาก็ได้เข้าแจ้งความที่สภ.บางบัวทอง ก่อนที่เรื่องจะถูกโอนไปที่ตำรวจ สอท. จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป จนอาตมาทำใจแล้วว่าเงินจำนวนดังกล่าวคงไม่ได้กลับคืนมา จนกระทั่งวันนี้มีโทรศัพท์อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดินติดต่อมาเรื่องที่อาตมาไปติดต่อทำเรื่องรวมโฉนดที่ดินหลายแปลงให้เป็นโฉนดพื้นเดียวกันในชื่อวัด

 

 

 

พระเอกฉลวย กล่าวต่อว่า ระหว่างพูดคุยอาตมาจำน้ำเสียงของชายที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินได้ว่าเป็นน้ำเสียงเดียวกันกับคนร้ายที่เคยโทรมาหลอกให้อาตมาทำรายการผ่านโทรศัพท์มือถือจนเงินในบัญชีวัด 3 บัญชีถูกดูดเงินออกไปเกือบ 1.5 แสนบาท อาตมาจึงได้บอกกับคนร้ายไปว่าไม่สะดวกที่จะคุยในตอนนี้ให้ติดต่อกลับมาอีกครั้งในวันที่ 21 ต.ค.นี้แทน ก่อนที่จะรีบวางโทรศัพท์ไป ด้วยความวิตกกังวลว่าคนร้ายจะมาหลอกให้ทำรายการดูดเงินจากบัญชีวัดไปอีก

 

 

 

พระเอกฉลวย กล่าวอีกว่า อาตมายอมรับว่าทุกวันนี้กลายเป็นคนกลัวโทรศัพท์มือถือไปแล้ว ไม่ค่อยกล้ารับสายโดยเฉพาะกับเบอร์แปลก ๆ ที่ไม่ได้เมมชื่อติดต่อเอาไว้ เพราะกลัวจะเป็นมิจฉาชีพแอบอ้างกลวิธีต่าง ๆ มาหลอกดูดเงินไปอีก ของเก่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ติดตามให้ไม่ได้ จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากทางเพจกล้าที่จะก้าวให้เข้ามาช่วยเหลือ

 

 

 

 

พระเอกฉลวย กล่าวด้วยว่า เนื่องจากอาตมาสงสัยว่า พอมีเงินเข้าออกบัญชีวัด ทำไมคนร้ายถึงรู้ความเคลื่อนไหวได้ และพยายามจะอ้างตัวมาหลอกดูดเงินอีก คนร้ายเหมือนรู้จุดอ่อนว่า อาตมามีความตั้งใจที่จะรวบรวมพื้นที่โฉนดข้างวัดหลายแปลงให้มารวมเป็นผืนเดียวกันในชื่อวัด ซึ่งอาตมาได้ไปติดต่อทำเรื่องกับสำนักงานที่ดินสาขาอำเภอบางบัวทองมาหลายปีแล้ว

 

 

 

พระเอกฉลวย กล่าวว่า จนปัจจุบันเรื่องการเปลี่ยนชื่อโฉนดจากชื่ออาตมาเพื่อให้เป็นชื่อของทางวัด กลับไม่มีความคืบหน้าไปไหน ไม่รู้ไปติดขัดอะไรจนเกิดความล่าช้าได้ขนาดนี้ แล้วก็กลายเป็นจุดอ่อนให้คนร้ายใช้เรื่องนี้เข้ามาหลอกอาตมาอยู่เรื่อยไป

 

 

 

เจ้าอาวาสวัด กล่าวยอมรับว่า ทุกวันนี้ยังมีความวิตกกังวลอยู่ทุกวัน เพราะไม่รู้ว่าในวันไหนจะมีเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินบางบัวทองโทรมาแจ้งเรื่องแจ้งความคืบหน้าให้กับอาตมาจริง ๆ จนระแวงไปหมดแล้วว่า อันไหนจริงอันไหนเท็จ ทำให้อาตมาคิดว่าถ้าจัดการเรื่องการโอนโฉนดที่ดินยกให้วัดเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ก็จะไม่จับโทรศัพท์อีกถ้าไม่จำเป็น

 

 

 

พระเอกฉลวย กล่าวอีกว่า อาตมาอยากจะขอบิณฑบาตไปถึงคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ด้วยว่า อย่าโทรหาอาตบ่อย ๆ เลย เพราะเงินที่มาหลอกเอาจากอาตมาไปเป็นเงินวัด เป็นเงินที่คนเขามาทำบุญกับวัดทั้งนั้น จะเป็นบาปเป็นกรรมมากไปเปล่า อาตมาเป็นเพียงคนดูแลเงินให้กับวัดเพื่อนำเงินมาพัฒนาปรับปรุงวัดให้มีความเจริญก้าวหน้า ไม่ใช่เงินของอาตมาเอง อาตมาขอบิณฑบาตให้ไปทำมาหากินสุจริตเถอะ

 

 

 

“นอกจากนี้ อาตมาขอบิณฑบาตไปถึงเจ้ากน้าที่ตำรวจและสำนักงานที่ดินด้วยว่า ช่วยทำหน้าที่ความรับผิดชอบให้รวดเร็วหน่อย อาตมาไม่เข้าใจว่าทำหน่วยงานรัฐเหล่านี้จะต้องทำเรื่องให้ล่าช้าเหมือนดึงเรื่องไปเรื่อย ๆ ให้มันช้าจนข้ามเดือนข้ามปี ดีที่ยังไม่ข้ามภพข้ามไปด้วย” เจ้าอาวาสวัด กล่าว

 

 

 

 

ด้าน นายอธิวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากตนได้รับเรื่องร้องเรียนขอความข่วยเหลือและได้รับมอบหมายจากทางเจ้าอาวาสวัดแล้ว ตนจะเดินทางไปติดตามความคืบหน้ายังสำนักงานที่ดินสาขาบางบัวทองว่า เรื่องการเปลี่ยนชื่อโฉนดที่ดินแปลงอื่น ๆ ให้เป็นชื่อของวัด ทำไมถึงเกิดความล่าช้าและติดขัดปัญหาอะไรที่ปัจจุบันยังไม่สามารถโอนเปลี่ยนชื่อให้เป็นของวัดได้

 

 

 

นายอธิวัฒน์ กล่าวต่อว่า จนทำให้ทางวัดได้รับความเดือดร้อนจากแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ที่พยายามโทรมาหลอกลวงโดยอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีคำตอบที่ชัดเจนให้กับทางวัดต่อไป

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube