fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“ดีเอส” เชื่อมีนายทุนอยู่เบื้องหลังหมูเถื่อน 161 ตู้

Featured Image
DSI เชื่อ มีนายทุนอยู่เบื้องหลังหมูเถื่อน 161 ตู้ เตรียมประชุม ปปง. 28 ส.ค.

 

 

 

วันนี้ (25 ส.ค. 66) ที่ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ หัวหน้าพนักงานสอบสวน และ ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ทับสาร รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ร่วมแถลงรายละเอียดในประเด็นความคืบหน้าคดีหมูเถื่อนแช่แข็ง 161 ตู้

 

 

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า จากการขยายผล พบว่ามีอีก 2 บริษัทที่อยู่ทางภาคใต้ มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนครั้งนี้ และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารของ 2 บริษัทนี้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่าบริษัทเป็นของใคร ตั้งอยู่ที่ไหน มีวัตถุประสงค์จัดตั้งเพื่ออะไร และมีใครอยู่ในโครงสร้างบริษัทบ้าง นอกจากนี้ จากการประชุมร่วมกันทั้งสามหน่วยงาน ได้แก่ ดีเอสไอ กรมปศุสัตว์และกรมศุลกากร ในเรื่องของกลางที่นำเข้า พบว่าทั้งหมดเป็นเนื้อสุกรที่ไม่ผ่านการตรวจโรค เข้าข่ายต้องดำเนินการทำลายทั้งหมด

 

 

 

จะมีการทำลายภายในเดือนกันยายนแน่นอน และเป็นการทำลายตามขั้นตอนของกรมปศุสัตว์ ส่วนภารกิจที่ดีเอสไอต้องเร่งทำ คือ การขยายผลไปสู่เจ้าของขบวนการที่แท้จริง เนื่องจาก 11 บริษัทที่เราได้ไปตรวจค้นมานั้น ไม่น่าจะเป็นผู้สั่งการ และในสัปดาห์หน้าเราจะประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการสืบสวนสอบสวน เราจะใช้การสืบสวนผ่านเส้นทางการเงิน และทรัพย์สิน เพื่อหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

 

 

 

พ.ต.ต.ณฐพล เผยต่อว่า หลังจากนี้เราจะมีการประชุมร่วมกับกรมปศุสัตว์เกี่ยวกับสถานที่สำหรับการฝังกลบทำลายหมูเถื่อน ซึ่งเป็นสถานที่ของปศุสัตว์ ภายในพื้นที่จังหวัดสระแก้วเช่นเดิม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมพื้นที่ของกรมปศุสัตว์ ซึ่งได้มีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคต่างๆตามระเบียบขั้นตอน และในการฝังกลบทำลายเราจะเชิญสื่อมวลชนและประชาชนเข้าร่วมสังเกตการณ์เพื่อป้องกันข้อครหาเรื่องของกลางหล่นหาย เพราะจะต้องมีการขนย้ายของกลางทั้งหมด 161 ตู้จากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี มายังพื้นที่จังหวัดสระแก้ว อีกทั้งในการทำลายของกลางนั้น เจ้าของตู้ที่แท้จริง (19 สายเรือ หรือบริษัทว่าจ้าง 19 สายเรือ) จะต้องเป็นผู้ดำเนินการออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งบริษัทสายเรือส่วนใหญ่ก็ได้ช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายดังกล่าว แล้วก็เป็นเรื่องของกรมปศุสัตว์ที่จะต้องไปเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำความผิดด้วย

 

 

พ.ต.ต.ณฐพล เผยด้วยว่า สำหรับการขนย้ายของกลาง เท่าที่มีการพูดคุยกับกรมศุลกากร เราจะมีการขนย้ายในช่วงเช้ามืดจากท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อไม่ให้กระทบต่อการขนย้ายสินค้าของทางท่าเรือ ใช้เวลาไม่เกิน 6 ชั่วโมงถึงที่หมาย โดยจะนำออกครั้งละประมาณ 10 คัน อีกทั้งการต้องตรวจโรคที่เกี่ยวกับหมูจึงทำให้ล่าช้า คาดว่าจะใช้เวลา 4 วัน ในการขนย้ายครบทั้ง 161 ตู้ ซึ่งคันไหนถึงก่อนก็เทลงดินก่อนได้เลย และดีเอสไอจะรับหน้าที่ดูแลขนย้ายของกลางทั้งหมด ทั้งนี้ มีหมูเริ่มเน่าแล้ว 4 ตู้ และใน 4 ตู้นี้จะมีรถเผาของกรมปศุสัตว์ที่จะดำเนินการเผาทิ้งที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพราะถ้าหากขนย้ายไปฝังกลบด้วยก็จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดได้

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube