fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

เด็กและผู้ปกครองดีใจไร้กังวลได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์

หลังมีการเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 6-8 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา สำหรับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ Pfizer ในวันนี้ 21 กันยายน 2564 ณ อาคารทีปังกรรัศมีโชติ ชั้น 6 ถือเป็นวันกำหนดฉีดวัคซีนให้กับเด็ก อายุ 12-18 ปี ที่เกิดในปี พ.ศ. 2546 – 2552 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มโรคเรื้อรังและอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ ทางโรงพยาบาลวชิรพยาบาลได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์จากทางภาครัฐ ทั้งหมด 2,000 โดส

โดยวันนี้ฉีดไปทั้งหมด 1,500 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 700 โดส และเข็มที่ 2 อีกจำนวน 800 โดส ซึ่งคนที่ฉีดครบ 2 เข็มเมื่อสังเกตอาการแล้วสามารถกลับบ้านได้ทันที ส่วนคนที่ฉีดเข็มที่ 1 เมื่อสังเกตอาการครบเวลา ต้องรอเอกสารใบนัดหมายให้มาฉีดเข็มที่ 2 ต่อไป ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับเด็กและผู้ปกครองพบว่ารู้สึกดีใจที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ในวันนี้ โดยส่วนใหญ่ไม่มีความกังวลแต่อย่างใด มีเพียงอาการตื่นเต้นเล็กน้อยก่อนที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนแต่เพียงเท่านั้น

โดยในวันนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจเยี่ยมในจุดนี้ด้วย พร้อมกับ ทำความเข้าใจกับเด็กและผู้ปกครองว่า เป็นกังวลและห่วงใยตลอดมา ไม่ได้ต้องการให้ฉีดเฉพาะเด็กกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น อยากให้ฉีดครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งขณะนี้พยายามเร่งจัดหาวัคซีนเพื่อจะได้นำมาฉีดให้ครอบคลุมประชากรทั้งหมด เพื่อจะได้ทำการเปิดการเรียน-การสอน ให้ได้โดยเร็วที่สุด

“วัตถุประสงค์จริงๆแล้วของทางกทม. อยากฉีดให้กับเด็กนักเรียนอายุ 12-18 ปี ทั่ว กทม.ที่มีประมาณล้านกว่าคน เราอยากจะฉีดให้ทั้งหมด เพื่อในกรณีที่เราจะเปิดเรียน อาจจะนะครับ ถ้าสมมุติเราจะเปิดได้ในเดือน พ.ย. เราก็อยากจะฉีดให้หมด เพื่อความสบายใจของตัวเด็กเอง ตัวผู้ปกครองและภาครัฐทางรัฐบาลและกทม.ก็ห่วงใยอยู่ก่อนที่จะเปิดเรียนอยากฉีดวัคซีนให้ได้ครบทั้งหมด”

ผู้ว่า กทม. ยังเปิดเผยด้วยว่าจากการลงทะเบียนเด็กกลุ่มเสี่ยง ทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน แต่ว่าขณะนี้ภาครัฐ โดยกระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์มาให้เพียง 2,000 โดสเท่านั้น ทำให้เหลือตกค้างอยู่อีกกว่า 3,000 คน คาดว่าอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ทางภาครัฐคงจัดสรรวัคซีนให้เพิ่มเติม

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube