fbpx
Home
|
ข่าว

“สนธิญา” ร้องป.ป.ช. ฟันจริยธรรม “รักชนก”

Featured Image

 

 

 

“สนธิญา” ร้องป.ป.ช. ฟันจริยธรรม “รักชนก” หลังศาลอาญา พิพากษา ความผิดม.112 เชื่อ ป.ป.ช. ใช้เวลาไม่นาน ชี้ ไม่ควรกลับไปนั่งเป็น สส.

 

 

 

 

นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือขอให้สำนักงานคณะป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตรวจสอบ นางสาว รักชนก ศรีนอก สส.แบบเขต กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ให้ตรวจสอบเอาผิดจริยธรรม จากกรณีที่ศาลอาญารัชดา พิพากษาให้จำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา และได้รับการประกันตัวไปแล้วนั้นในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ด้วยหลักฐานและคำพิพากษาแม้จะเป็นศาลชั้นต้น แต่การกระทำเหล่านั่น สำเร็จสมบูรณ์ไปแล้ว และไม่เหมาะสมมาทำหน้าที่ในสถาบันนิติบัญญัติอีกต่อไป จึงไปร้อง ป.ป.ช.ในประเด็นฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติมาตรฐานจริยธรรมและความผิดร้ายแรงตามข้อบังคับประมวลจริยธรรม สส.สว.ปี 2563 และ มาตรฐานทางจริยธรรมที่ร้ายแรงตามรัฐธรรมนญพุทธศักราช 2560 ประกอบการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญพุทธศักราช 2560 จึงร้อง ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย และ ประมวลจริยธรรมร้ายแรงต่อไป

 

 

 

นายสนธิญา ระบุว่า เมื่อนางสาวรักชนก เข้ามาทำหน้าที่เป็นสส. ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ และกรอบจริยธรรม 2 ฉบับ คือประมวลจริยธรรม ว่าด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมมาธิการ 2563 ซึ่งนางสาวรักชนก กระทำการขัดและฝ่าฝืนต่อจริยธรรมร้ายแรงในหมวด 1 อุดมการณ์ในข้อที่ 4,6,7,18 และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตราฐานทางจริยธรรม ม.219 และรัฐธรรมนูญที่ใช้บังคับกับองค์กรอิสระ องค์ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งครอบคลุมถึง สส.สว. ตามข้อที่3 (4) วรรค 2 ประกอบข้อที่ 5,6 และข้อที่ 19 ตนจึงมาใช้สิทธิที่ตามรัฐธรรมนูญ ยื่นต่อป.ป.ช. ให้ตรวจสอบพิจารณาและวินิจฉัย นางสาวรักชนก กระทำการฝ่าฝืน ไม่ทำตามจริยธรรมตามที่ตนกล่าวหาหรือไม่ พร้อมหยิบยกคำวินิจฉัย ของศาลอาญา ที่ระบุว่า “จำเลยกระทำการผิดวิสัย ของบุคคลทั่วไปในฐานะ ปวงชนชาวไทย ซึ่งต้องเคารพและไม่ละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญทุกฉบับ”

 

 

 

 

 

นายสนธิญา กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่า บุคคลที่โพสต์ข้อความหรือรีทวีต ที่มีลักษณะเป็นการอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบัน เข้าข่ายผิดตามม.112 และเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย ก็จะโดนความผิดสองเด้ง และจากคำวินิจฉัยจากศาลอาญา ศาลให้ความเมตตาโดยลงโทษต่ำสุด ตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมขอเรียกร้องไปยังนางสาว รักชนก ให้ระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ผิดเงื่อนไขต่อศาล ในการใช้เป็นเงื่อนไขขอประกันตัวชั่วคราว และในช่วง1-2 วันที่ผ่านมา ตนได้ดูสื่อโซเชียลของนางสาวรักชนก พบว่า ค่อนข้างที่จะมีความหมิ่นเหม่ จึงขอให้ใช้ความระมัดระวัง เพราะหากกระทำการขัดต่อข้อตกลงกับศาล อาจจะมีคนไปร้องขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยและยกเลิกการประกันตัว แบบเช่นเดียวกันกับ กรณี นายอานนท์ นำภา ที่ผิดเงื่อนไขต่อศาล ตนได้ขอให้ยกเลิกการประกันตัวนายอานนท์ ที่ไปร่วมชุมนุมจนผิดเงื่อนไข

 

 

 

 

 

ซึ่งจากกฎหมายทั้งหมดที่นายสนธิญายกมา แสดงให้เห็นว่า นางสาวรักชนก กำลังกระทำการที่ฝ่าฝืนและไม่ปฎิบัติตามประมวลจริยธรรม ทั้ง 2 ฉบับ จึงขอให้ป.ป.ช. ตรวจสอบและวินิจฉัย ซึ่งกรณีคดีความอาญาก็สู้กันไป 3-4 ปี แต่ในกรณีจริยธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่พิจารณาอย่างรวดเร็ว ถือว่าไม่มีความซับซ้อน ป.ป.ช.สามารถพิจารณาได้ในเวลาอันรวดเร็ว จนเชื่อว่าไม่เกิน 6 เดือน ป.ป.ช อาจจะสามารถชี้มูลได้ ส่วนตนเองไม่เห็นด้วยกับม.112 หรือสถาบัน มีสองทางเลือกคือ 1.ต้องอยู่ในคุก กับทางเลือกที่ 2.ต้องไปอยู่ต่างประเทศ เพราะคนส่งนใหญ่ของประเทศ ยังมีความคิดรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งหาตนพบว่ามีการจาบจ้วงสถาบันชัดเจนเมื่อไหร่ก็พร้อมที่จะแจ้งความดำเนินคดีอาญา และจริยธรรม

 

 

 

 

 

ส่วนกรณีที่มีแนวร่วมแสดงความคิดว่า ไม่ควรจะมีใครถูกดำเนินคดีตามม.112 นั้น นายสนธิญา เห็นว่า การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับม.112 สามารถกระทำได้ในทางวิชาการการให้เหตุผล แต่ไม่ใช่การด่า หรือหมิ่นประมาท ต่อสถาบัน แต่หากจะแสดงความคิดเห็นวิเคราะห์วิจารณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับม.112 ตนมองว่าก็ไม่มีใครเดือดร้อนจากม.112 แต่หากมีคนออกมาแสดงความเห็นมากขึ้นก็ขอให้พึงระวัง เพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี และกระบวนการที่จะนำไปสู่การแก้ไขม.112 ก็อยู่ในชั้นของสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว และหากพรรคการเมืองใดต้องการแก้ไขม.112 ก็ขอให้ประกาศต่อประชาชนว่าจะดำเนินการแก้ไขอย่างไรบ้าง หากประชาชนเห็นด้วยทั้งประเทศ ตนเชื่อว่สไม่มีใครค้าน ก็ขอให้สู้กันในสภา

 

 

 

 

“จนถึงวันนี้ ผมยืนยันชัดเจนว่า คุณรักชนก ไม่สมควรที่จะเข้าไปนั่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่นิติบัญญัติแล้ว ผมจึงมาร้อง ให้ป.ป.ช.โปรดวินิจฉัยและจะเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ขณะนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สว.หรือว่าใครก็ตาม กลัวมาที่สุด กลัวเรื่องจริยธรรม ซึ่งมีความแรงและเร็ว มีสส.หลายคนที่โดนจริยธรรม บางคนถึงขนาดถูกห้ามเล่นการเมืองตลอดชีวิต ก็มี นี่คือตัวที่คอยกำกับการทำงานของสส.เพราะที่ผ่านมาก็จะเห็นว่าคุณจะทุจริตหรือทำอะไรก็ตาม กว่าจะจบคดี ก็ปาเข้าไป 9-10 ปี และคดีนี้ผมเชื่อว่า ป.ป.ช.จะใช้เวลาพิจารณาไม่เกิน 4-5 เดือน เพราะไม่มีอะไรทับซ้อน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแสดงความคิดเห็น ศาลได้ตัดสินมาแล้ว หากเป็นคนทั่วไปก็ไม่มีปัญหา แต่นี่เขาเป็นสส.” นายสนธิญา กล่าว

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube