หล่มเก่าอ่วม! มวลน้ำ ม.ป่าสักสูงสุดในรอบ 60 ปี 2 ตำบลจมน้ำกลางดึก เร่งอพยพชาวบ้านแทบไม่ทัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.เพชรบูรณ์ เกิดวิกฤตสถานการณ์น้ำท่วมอย่างหนักในเขต อ.หล่มเก่าอีกครั้ง หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา มีฝนตกต่อเนื่องในเขตพื้นที่รอยต่อ อ.ด่านซ้าย จ.เลยและอ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ จนส่งผลให้ลำน้ำสาขามีน้ำป่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำป่าสักเป็นจำนวนมากทุกครั้งที่ผ่านมา
กระทั่งเอ่อทะลักออกจากตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรอย่างรวดเร็ว ในพื้นที่ ต.ศิลา หมู่ที่ 6, 15 และที่ ต.ตาดกลอย หมู่ที่ 1,2,3,4,6,7,8 โดยเฉพาะระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก บริเวณสะพานท่าไฮหย่อง (จุด s33) ต.ตาดกลอย
โดยเมื่อราว 03.00 น.ระดับน้ำพีคสูงสุดถึง 10.30 ม. ทำให้น้ำท่วมจนมิดราวสะพาน ในขณะที่กระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากและมีท่อนไม้ถูกน้ำไหลพามาติดที่สะพาน กระทั่งรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้
ต่อมาเวลา 06.00 น.ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก บริเวณสะพานท่าไฮหย่อง (จุด s33) เริ่มลดลงกระทั่งเวลา 09.00 น.ระดับน้ำที่ท่วมสะพานจึงเหือดแห้ง โดยเจ้าหน้าที่หมวดการทางหล่มเก่าจึงเข้าเคลียร์ทำความสะอาดผิวสะพานน้อมเปิดให้รถทุกชนิดสัญจรผ่านไปมาได้ตามปกติโดยนายสุรินทร์ จันทวงศ์ หน.สถานีสำรวจลุ่มป่าสัก s33 ต.ตาดกลอย กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาระดับน้ำที่สถานีฯสูงราว 10.30 น.
ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน จนอาคารสถานีฯถูกน้ำท่วมสูงจนแทบติดเพดานฝ้าในอาคาร ทำให้ตนเองต้องเผ่นหนีน้ำเอาตัวรอดเพราะน้ำขึ้นเร็วมากและกระแสน้ำไหลเชี่ยว
ในขณะที่จำเป็นต้องปล่อยให้ทรัพย์สินและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในอาคารจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งปีที่แล้วคิดว่าปริมาณน้ำมากแล้ว แต่รอบนี้ปริมาณมากกว่าอีกโดยชาวบ้านบอกว่าน้ำมากที่สุดในรอบ 60 ปีด้วย แต่ก็ยังโชคดีที่น้ำมาเร็วและไปเร็ว
ผู้สือข่าวรายงานว่า หลังมวลน้ำก้อนนี้เริ่มไหลเข้าสู่พื้นที่ตอนล่าง ล่าสุดตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ปรากฏว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านก้างปลา,บ้านห้วยจีน, บ้านวังขอน ต.ตาดกลอย ตกอยู่ในภาวะตึงเคลียดหนัก
เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ต้องรับมวลน้ำ โดยที่หมู่ 6 บ้านวังขอน ได้เกิดภาวะน้ำท่วมหนัก ทำให้ต้องมีการระดมเจ้าหน้าที่และจิตอาสาทุกฝ่าย เข้าไปทำการอพยพผู้ประสบภัย อาทิ ผู้ป่วยติดเตียง คนชราและเด็กออกจากพื้นที่ถูกน้ำท่วม ไปอาศัยบนพื้นที่สูงเป็นการชั่วคราว และในการช่วยเหลืออพยพผู้ประสบภัย
เนื่องจากระดับน้ำที่ค่อนข้างสูงและยังไหลเชี่ยวกราก ทำให้การเข้าช่วยเหลือของอาสากู้ภัยร่วมกตัญญูเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่วนสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มวลน้ำก้อนนี้สร้างความเสียหายให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ค่อนข้างกว้างขวาง เพราะไม่คาดคิดว่ามวลน้ำจากแม่น้ำป่าสักในรอบนี้ จะมีปริมาณมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
