วงการสงฆ์ฉาว!! ตำรวจไซเบอร์ บุกรวบพระหนุ่มนักธรรมเอก คากุฏิ หลังล่อลวงเด็กชายให้ถ่ายภาพลามก ก่อนจะนำไปขายต่อในกลุ่มลับ
วันนี้ (22 ก.พ. 67) พล.ต.ต. อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ แถลงผลการปฏิบัติการจับกุมพระสงฆ์รูปหนึ่งอายุ 23 ปี หลังได้รับแจ้งเบาะแส จาก The Scientia Program (โปรแกรมชายเอนเทีย) ซึ่งเป็น NGO ที่ดำเนินการในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนผู้บังคับใช้กฎหมาย
ในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์และแสวงหาประโยชน์จากเด็ก จากเบาะแสพบว่ามีการโฆษณาชักชวนเข้ากลุ่มลับในแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อบัญชี “It‘s me” ได้โพสต์โฆษณาให้ผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกเข้ากลุ่มลับ ในลักษณะเชิญชวนให้เข้าดูวิดีโอคลิปเด็กมัธยมชายกระทำอนาจารในบริบทต่างๆ
โดยจากการตรวจสอบพบว่า มีเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ที่สามารถระบุตัวตนได้ปรากฏในคลิปจำนวน 5 ราย และยังมีที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้อีกเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าผู้จัดการบัญชี หรือแอดมิน LINE คือ พระสงฆ์รูปหนึ่ง อายุ 23 ปี ปัจจุบันบวชอยู่ในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเข้าตรวจค้นเป้าหมาย
ซึ่งในช่วงเช้าของวันที่ 21 ก.พ. 67 เจ้าหน้าที่ บก.ตอท. ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าตรวจค้นกุฏิภายในวัดแห่งหนึ่งใน อ.สหัสขันธ์จ.กาฬสินธุ์ พบพระสงฆ์รูปดังกล่าวเป็นแอดมิน เมื่อขอตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ พบภายใน ติดตั้ง แอพพลิเคชั่น LINE โดยลงชื่อเข้าใช้งานบัญชีที่ประกาศขายคลิปสื่อลามกอนาจารเด็กชาย (CSAM)
ซึ่งเป็นผู้จัดการหรือแอดมินกลุ่มเองจำนวน 2 กลุ่ม และเป็นสมาชิกกลุ่มอื่น (CSAM) อีกกว่า 100 กลุ่ม รวมสมาชิกทั้งหมด 16,206 คน และพบสื่อลามกอนาจารเด็กเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ, Notebookโน๊ตบุ๊ก), Flash Drive (แฟลชไดร์ฟ) และที่จัดเก็บจัดการไฟล์ออนไลน์ (MEGA) รวมจำนวน 78.2 GB ซึ่งมีคลิปวิดีโอ อีกเกือบ 7,000 ไฟล์
โดยที่พระสงฆ์ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นสมาชิกในกลุ่มลักษณะดังกล่าวมานานกว่า 2 ปี ก่อนจะผันตัวมาเป็นแอดมินผู้ดูแลกลุ่ม โดยจะเริ่มติดต่อผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะแลก line เพื่อมีการพูดคุยติดต่อกัน และพระสงฆ์มีศิลปะในการพูดคุย โน้มน้าวใจค่อนข้างเก่ง ทำให้ผู้เสียหายค่อนข้างเชื่อใจ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียหายทั้งหมดเป็นผู้ชาย โดยผู้เสียหายที่มีอายุน้อยที่สุดคือ 13 ปี และยังไม่พบว่ามีพฤติกรรมร่วมเพศหรือเสพเมถุนแต่อย่างใด และพระสงฆ์รูปดังกล่าว ยังได้เก็บค่าสมาชิกคนละ 150 บาท โดยมีอายุการใช้งานตลอดชีพ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันแจ้งข้อหา ดังนี้ ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและ ข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมถึงข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก และส่งต่อซึ่งส่งสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น,
เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก และข้อหาทำให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าสื่อลามกอนาจารเด็ก ดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใดนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สหัสขันธ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ตำรวจไซเบอร์ยังได้แถลงผลการจับกุมสองพี่น้องแอดมินเพจค้าป้ายทะเบียนปลอมรถยนต์ ผลิตส่งขายออนไลน์ทั่วประเทศ และผลการจับกุมนายหน้าจัดหาบัญชีม้า อ้างการไฟฟ้า หลอกติดตั้งแอพดูดเงิน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
