fbpx
Home
|
อาชญากรรม

สํารวจจุดเสี่ยง “ถนนทรุด” รัชดา-ห้วยขวาง

Featured Image
สํารวจจุดเสี่ยง “ถนนทรุด” รัชดา-ห้วยขวาง พบฝาบ่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน 7 จุด มีลักษณะยุบตัวลง 1 จุด ปชช. รับหวั่นเกิดอุบัติเหตุ

 

 

 

วันนี้(9 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สํารวจจุดเสี่ยงที่มีการนําแผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่วางปิดกันบ่อหรือท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินบนท้องถนน ภายหลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่างานก่อสร้างท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินทั่วกรุงเทพมหานครนั้นมีมากถึง 879 แห่ง

 

 

 

โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสํารวจที่ถนนรัชดาภิเษกบริเวณหน้าทางเข้าศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา พบมีแผ่นคอนกรีตวางเรียงกัน 2 แถวรวม 16 แผ่น พร้อมกับป้ายเตือนลดความเร็ว ซึ่งจุดดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับท่อร้อยสายไฟใต้ดินที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวานนี้ และจากการสังเกตพบว่าเมื่อมีรถขนาดใหญ่ขับผ่านแผ่นคอนกรีตมีการขยับเล็กน้อย รวมถึงมีลักษณะยุบตัวลงอีกด้วย ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายตาอผู้ที่สัญจรไปมา

 

 

 

ด้านคนขับวินรถจักยานยนต์รับจ้าง เล่าว่า หลังทราบข่าวถนนทรุดก็รู้สึกกังวลเวลาขับขี่ผ่านจุดที่เป็นฝาท่อคอนกรีตที่ใช้ปิดบ่อ โดยจุดนี้ถือได้ว่าอันตรายเช่นกันเพราะมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งโดยเฉพาะรถจักยานยนต์ เนื่องจากฝาท่อมีลักษณะยุบตัวลง หากรถจักยานยน์หรือรถยนต์ขับมาด้วยความเร็วอาจเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุได้ อย่างไรก็ตามจุดนี้เจ้าหน้าที่เคยมาปรับปรุงแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหมั่นดูแลเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน

 

 

 

เบื้องต้นจากการสํารวจตั้งแต่บริเวณแยกเทียนร่วมมิตรไปจนถึงสี่แยกห้วยขวาง พบว่ามีการใช้ฝาท่อซึ่งเป็นแผ่นคอนกรีตวางปิดบนท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินประมาณ 7 จุด โดยจุดที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายมีประมาณ 3 จุด คือบริเวณหน้าทางเข้าศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา บริเวณทางขึ้นอุโมงค์ห้วยขวางมุ่งหน้าถนนพระราม 9 และจุดท้ายคือห่างกันเล็กน้อยคือบริเวณหน้าปากซอยรัชดา 12 เนื่องจากก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เคยเกิดอุบัติเหตุฝาท่อกระดกจนมีรถชนกันประมาณ 3 คัน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube