fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ไม่รอด! หนุ่มดับเพลิง หนีคดีนานเกือบ 20 ปี

Featured Image

 

ตร.กองปราบฯ ตามรวบหนุ่มดับเพลิงก่อเหตุพยายามฆ่า หลบหนีคดีนานเกือบ 20 ปี รับสารภาพทุกข้อหา

 

 

 

 

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วยพ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. และพ.ต.ท.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป. นําเจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุม นายสิทธิพล หรือปวิช อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรังโดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและมิใช่กรณีมีเหตุอันจำเป็นหรือเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”

 

 

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นเดือน ธันวาคม ปี 2546 นายสิทธิพล กำลังศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง ต่อมาในวันเกิดเหตุ ขณะที่ผู้ต้องหากำลังนั่งดื่มสุราอยู่หน้าห้องพักของตนเอง มีนายสันติชัยพร้อมกับเพื่อน 3 คนและแฟนสาวเดินผ่าน โดยผู้ต้องหาได้พูดแซวแฟนสาวของนายสันติชัย จนทำให้โกรธเคืองและยกพวกรุ่มทำร้าย แต่นายผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวแทงนายสันติชัยกับพวกและในขณะเดียวกันเพื่อนของผู้ต้องหาเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มของนายสันติชัย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่ผู้ต้องหาและเพื่อนจะวิ่งหลบหนีไป

 

 

 

ต่อมาตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ นายสิทธิพลกับเพื่อน ซึ่งตำรวจได้พยายามติดตามจับกุมนายสิทธิพล ผู้ต้องหา มาโดยตลอด แต่สามารถหลบหนีการจับกุมได้ทุกครั้ง อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนชื่อจาก “สิทธิพล” เป็น “ปวิช” และหลบหนีคดีมาได้นานเกือบ 20 ปี ซึ่งคดีนี้ใกล้จะหมดอายุความในวันที่ 3 ธ.ค. 2566 จนกระทั่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่า นายสิทธิพล หลบหนีมาทำงานอยู่ที่สถานีดับเพลิงใน จ.นครศรีธรรมราช จึงได้เข้าติดตามจับกุมนายสิทธิพล ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยอด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากสอบถามคำให้การเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube