fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“ดีเอสไอ” ยันพบทุจริต “โกงหุ้นสตาร์ค”

Featured Image
“ดีเอสไอ” ยันพบทุจริต “โกงหุ้นสตาร์ค” สั่งอายัดทรัพย์กว่า 100 ล้านบาท จ่อหมายเรียก 4 บริษัทเอี่ยว คาดความเสียหายพุ่งสูง 1 แสนล้านบาท

 

 

 

วันนี้ (28 มิ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า ภายหลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมประชุมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อหารือแนวทางการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีโกงหุ้น STARKนั้น ตนได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทแล้ว และจะเร่งติดตามทรัพย์สินที่เหลืออีกจำนวนมาก ส่วนมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ เบื้องต้นเป็นจำนวนตัวเลขอยู่ที่ 35,000 – 50,000 ล้านบาท และคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะทะยานสูงถึง 1 แสนล้านบาท

 

 

โดยที่ผ่านมาคณะพนักงานสอบสวนได้มีการเชิญพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายรายเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน อาทิ กรรมการและผู้เกี่ยวข้องทั้งกรรมการชุดเก่าและชุดใหม่ใน 4 บริษัทสำคัญที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากพบว่าบุคคลเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำบัญชีและมีบทบาทในตัดสินใจเซ็นอนุมัติต่างๆ ส่วนจะรู้เห็นในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่นั้น จะต้องมีการสอบปากคำให้ครบถ้วนในทุกประเด็น และดูพยานหลักฐานเอกสารประกอบ

 

 

 

พ.ต.ต.สุริยา ระบุต่ออีกว่า ดีเอสไอได้เร่งรัดขอเอกสารเพิ่มเติมจาก STARK และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้พิจารณาในส่วนของพยานหลักฐานขนานไปกับคำให้การต่างๆ ซึ่งหากได้ข้อมูลครบถ้วน จากนั้นเราจะพิจารณาว่าผู้ที่กระทำผิดมีใครเกี่ยวข้องบ้าง หรือเกี่ยวข้องในระดับใด เพื่อออกหมายเรียก และสำหรับคดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ดีเอสไอจึงต้องมีการเร่งทยอยเรียกบุคคลต่างๆเข้ามาให้การในฐานะพยาน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมคำให้การและเอกสารพยานหลักฐาน ส่วนระดับผู้บริหารของ 4 บริษัทมี่เกี่ยวข้องนั้น ดีเอสไอก็จะมีการทยอยเรียกเข้าให้การในฐานะพยานเช่นเดียวกัน

 

 

ในส่วนของอดีตประธานกรรมการ บริษัทสตาร์ค พ.ต.ต.สุริยา ระบุว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยังเจ้าตัวเรียบร้อยแล้ว คาดว่าหากเจ้าตัวเข้าให้การ คงจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ตนได้เร่งให้คณะพนักงานสอบสวนทำเรื่องราวให้ชัดเจน โดยภายในสองสัปดาห์หลังจากนี้ จะเห็นความชัดเจนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อผู้กระทำความผิด ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด หรือใครบ้างที่เข้าข่ายในการกระทําความผิด

 

 

ทั้งนี้ พ.ต.ต.สุริยา กล่าวทิ้งท้ายว่า เบื้องต้นดีเอสไอพบร่องรอยการทุจริตจริง จึงต้องเร่งรวบรวมพยานหลักฐานพนักงานสอบสวนดีเอสไอเอง เจ้าหน้าที่ ก.ล.ต. และ พนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เพื่อนำมาประกอบกับคำให้การก่อนพิจารณาตั้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิด และดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาต่อไป

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube