fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ตั้งแต่เริ่มชุมนุมก.ค.63เอาผิดแล้ว514คดี

Featured Image
บช.น.แถลงเตือนคาร์ม็อบไล่นายกฯ ผิดกฎหมายเผยตัวเลขคดีเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทั่วประเทศตั้งแต่เริ่มชุมนุม ก.ค. 63 เอาผิดแล้ว 514 คดี

วันนี้ (1 ส.ค. 64) เวลา 11.45 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. ร่วมกันแถลงแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมคาร์ม็อบ ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมในวันนี้มีการนัดหมายในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ มีจำนวน 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวินได้นัดหมายบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่เวลา 10.30 น. 2.กลุ่มนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นัดหมายรวมตัวบริเวณแยกราชประสงค์ ตั้งแต่เวลา 11.00 น. จากนั้นจะเคลื่อนตัวไปที่ถนนวิภาวดีรังสิต 3.กลุ่มคาร์ม็อบนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด นัดหมายถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่เวลา 13.00 น. 4.กลุ่มไทยไม่ทน ทำกิจกรรมคาร์ม็อบ นัดหมายหน้าปั๊ม ปตท. เลียบด่วนรามอินทรา จากนั้นจะเดินทางไปสมทบกับกลุ่มคาร์ม็อบของนายสมบัติ และ5.กลุ่มเครือข่ายนนทบุรีทำกิจกรรมคาร์ม็อบ นัดหมายที่รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระนั่งเกล้า บริเวณเซ็นทรัลเวสเกต จากนั้นจะเดินทางไปที่กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กรมราชทัณฑ์ ศูนย์ราชการ ก่อนรวมกลุ่มคาร์ม็อบของนายสมบัติที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต

พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวว่า บช.น. ขอเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ ว่าในขณะนี้ พื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุม การรวมตัวหรือการจัดกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือจัดกิจกรรมในลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เป็นความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และอาจเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมโรค นอกจากนี้การชุมนุมในลักษณะคาร์ม็อบ โดยมีการใช้รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ขับไปในพื้นที่ต่างๆ โดยมีการบีบแตร ส่งเสียง อาจจะกีดขวางการจราจร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น จะเป็นความผิดตามกฎหมายอีกส่วนหนึ่งด้วย

ส่วนการชุมนุมในวันเสาร์ที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมาของกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ที่มีการรวมตัวกันใน 4 สถานที่หลัก ก่อนจะมารวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เคลื่อนตัวไปที่บริเวณแยกราชประสงค์ และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กระทั่งเวลา 18.24 น. ได้มีการประกาศ ยุติการรวมตัวกัน ทางพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้สถานีตำรวจที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สน.มีนบุรี สน.สำราญราษฎร์ สน.ลุมพินี สน.พญาไท ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิดทั้งหมดทุกราย ซึ่งขณะนี้สามารถพิสูจน์ทราบ ผู้กระทำผิดได้กว่า 30 ราย ที่อยู่ในข่ายต้องถูกดำเนินคดี

ส่วนการดำเนินคดีในห้วงที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการชุมนุมในเขตพื้นที่กทม. บช.น.ได้ดำเนินคดีทั้งสิ้น 279 คดี ได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว 194 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 85 คดี ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยืนยันว่าทุกความผิด ที่เกิดขึ้นในกทม. เมื่อมีการกระทำผิดมีการเริ่มนับหนึ่งแล้ว กระบวนการสอบสวนจะต้องดำเนินการต่อไปจนกระทั่งคดีถึงที่สุด ทาง บช.น. จึงอยากเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ การชุมนุม การรวมตัว หรือการจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเป็นความผิดตามกฎหมาย

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ซึ่งมีตัวเลขในภาพรวมทั่วประเทศ มีการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงไปแล้ว 514 คดี แบ่งเป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ บช.น. 279 คดี และอยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการอื่นๆ อีก 235 คดี ซึ่งสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วส่งไปอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งพนักงานอัยการ และเปรียบเทียบปรับในชั้นพนักงานสอบสวน รวมทั้งสิ้น 301 คดี ยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน 213 คดี

ทั้งนี้ ในส่วนของพนักงานสอบสวนทุกสถานีตำรวจที่เกี่ยวข้อง ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผบช.น. ดูแลงานสอบสวน ลงไปกำกับดูแลควบคุมการปฏิบัติการสอบสวนคดีเกี่ยวกับการชุมนุมด้วยตัวเอง มีการเร่งรัดโดยมีนโยบายว่าทุกคดี ผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีทุกคน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ทราบดำเนินคดี รวมถึงกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆที่มีเงื่อนไขที่ได้รับการประกันตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนและชั้นศาล หากมีการกระทำผิด ฝ่าเงื่อนไขที่ได้รับการประกันตัว จะให้พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการในหลายกรณี

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube