กัน จอมพลัง พาสาวประเภทสอง แจ้งความ ถูกกลุ่มแท็กซี่ รุมทำร้ายจนสลบย่านกลางใจเมือง ปมเหตุ แค่รองเท้ากระเด็นถูกรถ
วันนี้ (2 มี.ค.66) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา นายเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นสาวประเภท 2 อายุ 24 ปี พร้อมเพื่อนอีก 2 คนเข้าแจ้งความที่ สน. ทองหล่อ หลังถูกกลุ่มคนขับแท็กซี่รุมทำร้ายร่างกายจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
นายเอ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ช่วงเวลาตี ตนเองและเพื่อนอีก 2 คนเดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านอโศก ขณะอยู่ภายในร้านทุกคนก็เต้นกันตามปกติ จนจู่ๆ มีชาวต่างชาติคนหนึ่ง ซึ่งมากับผู้หญิงไทย เดินมาหาเรื่องตนภายในร้าน. โดยกล่าว งหาว่าตนและเพื่อนเต้นไปชน // ซึ่งตนก็ได้ขอโทษไปแล้ว หลังจากนั้น 5 นาทีตัวเองเดินออกมาจากผับเพื่อจะไปเที่ยวต่อ ก็เห็นชาวต่างชาติคนเดิม รออยู่หน้าร้าน แล้วพยายามเข้ามาหาเรื่องตนอีก จึงมีการโต้เถียงกันสักพัก ชาวต่างชาติได้เดินเข้ามาหาตน ได้มีการผลักกันไปมา ตนยอมรับว่าตนได้ถอดรองเท้าปาไปที่ชาวต่างชาติคนนั้นจริง
ขณะเดียวกันมีกลุ่มแท็กซี่ ที่จอดรอผู้โดยสารเดินเข้ามาบอกว่า รองเท้าของตนไปโดนรถแท็กซี่ จากนั้นกลุ่มแท็กซี่ดังกล่าวประมาณ 7-8 คน ได้เข้ามาทำร้ายร่างกายตนเองและเพื่อน ตนเองพยายามเอามือปัดป้องที่ใบหน้า แต่ตอนนั้นก็ถูกทั้งต่อย ถูกทั้งเตะ จากนั้นตนเองหน้ามืดและภาพตัดไป มารู้สึกตัวอีกที ก็มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่งโรงพยาบาล ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ มีเลือดออก ซึ่งคาดว่าเกิดจากของแข็ง มีรอยฟกช้ำบริเวณร่างกายหลายจุด ทำให้ตนเองนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 คืน ตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวอยู่
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองรู้สึกว่า ตนเองไม่ได้ไปทะเลาะวิวาทกับแท็กซี่ แต่ทำไมถึงถูกรุมทำร้ายเพียงแค่เรื่องรองเท้าที่ไปโดยรถแท็กซี่ หากโดนจริง ตนเองยินดีชดใช้ค่าเสียหาย ขอแค่พูดกันดีๆ แต่ตนกลับถูกเข้ามารุมทำร้าย ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ตนเองรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มแท็กซี่ดังกล่าวทำตัวเหมือนมาเฟีย ซ้ำเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ให้เพียงลงบันทึกประจำวัน จึงอยากออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพให้กับสาวประเภทสอง
ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่าได้ประสานมายังพ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ วันนี้จะรีบดำเนินการทันที เพราะเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ แล้วจะเรียกตัวกลุ่มแท็กซี่มาภายในวันนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองมองว่าเป็นเรื่องของความคึกคะนองเมื่อเวลามีกลุ่มพวกจำนวนมาก อยากจะฝากไปถึงกลุ่มของผู้ก่อเหตุถึงแม้ว่า ร่างกายของสาวประเภทสอง จะเคยเป็นผู้ชายมาก่อน แต่จิตใจเป็นผู้หญิง อย่าคิดมา ใช้กำลังตัดสินปัญหาควรจะหันหน้าพูดคุยกัน เพื่อไม่ให้เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นคดีความ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
