“บิ๊กจ๋อ” เผย พ่อเลี้ยงโหด จํานนต่อหลักฐาน อ้างไม่ชอบเด็กผู้ชายล่าสุดพบกระดูดเพิ่มกว่า 10 ชิ้น ส่งตรวจพิสูจน์
วันนี้(21 ก.ย. 66) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อม พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง และ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม นำกําลังชุดสืบสวนและตำรวจ พฐ. พร้อมรถแบ็คโฮขุดหน้าดินริม ถ.พหลโยธิน กม.25 ซึ่งเป็นจุดที่ น.ส.เจษฎา ภรรยาคนที่ 2 ของนายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าโบกปูนลูกวัย 2 ขวบ ในพื้นที่ จ.กําแพงเพชร ก่อนยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตํารวจว่านำทารกมาทิ้งอีก 2 ศพ บริเวณจุดดังกล่าว
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากคำให้การนายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา ถือว่าทั้งคู่ให้การที่เป็นประโยชน์อย่างมากจนนำมาสู่การตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในวันนี้ต่างกับนางสุนันที่ให้การเป็นประโยชน์น้องที่สุด ส่วนกระดูกที่พบในวันนี้ ตรงกับข้อมูลที่ได้รับมา แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด เช่นที่อ้างว่า ลูกสาววัย 2 ขวบ ที่เสียชีวิตใน จ.กำแพงเพชร เพราะมีอาการป่วยนั้น เนื่องจากแพทย์ระบุว่า กะโหลกศีรษะและซี่โครงของร้าว
โดยการค้นหาวานนี้ตำรวจพบถุงดำ ถุงขาว และกระดูก 2 ชิ้น ซึ่งนายส่องศักดิ์ เห็นแล้วก็ยอมจำนนต่อหลักฐานหรือเรียกได้ว่ายอมรับว่าลงมือฆ่าเด็กจริง ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่า “ไม่ชอบเด็กผู้ชายและไม่ชอบเสียงเด็กร้อง”
ขณะที่ น.ส.เจษฎา บอกกับเจ้าหน้าที่ว่ารักนายส่องศักดิ์ จริงแต่จำใจต้องทำร้ายลูกเพราะตัวเองถูกบังคับและทำร้ายร่างกายด้วยมีดล่นไฟจี้ตามตัวจนมีบาดแผลทั่วขนาดใหญ่ ส่วนผลการตรวจสุขภาพจิตของนายส่องศักดิ์ แพทย์ยืนยันเบื้องต้นว่าปกติทุกประการ สามารถพูดคุยตอบโต้ได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ด้าน พล.ต.ต.วาที กล่าวว่า กระดูก 2 ชิ้น ที่เจอเมื่อวานนี้นั้น เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นกระดูกต้นแขนและต้นขา ก่อนที่แพทย์ รพ.ภูมิพล จะยืนยันเป็นชิ้นส่วนกระดูกของเด็ก โดยสามารถระบุอายุได้และวันนี้จากการระดมกําลังค้นหาชิ้นส่วนกระดูกเพิ่มพบมากกว่า 10 ชิ้น แต่ยังไม่พบกะโหลกศีรษะ อย่างไรก็ตามต้องรอแพทย์ยืนยัน ว่ากนะดูกที่พบวันนี้เป็นของมนุษย์ทั้งหมดหรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews