fbpx
Home
|
ข่าว

รองฯโจ๊ก ยันสรุปสำนวนคดีแอมไซยาไนด์ 15 ศพ ให้อัยการได้สัปดาห์หน้า

Featured Image
รองฯโจ๊ก ยันสรุปสำนวนคดีแอม ไซยาไนด์ 15ศพให้ อัยการได้สัปดาห์หน้า หลังมีหลักฐานเชื่อมโยงครบ พบ แอม สั่งซื้อไซยาไนด์ปี64 ก่อนมีคนตาย 11ศพ พร้อมย้ำไม่กังวลถูกฟ้อง ไม่เสียสมาธิในการทำงานเพราะทำทุกอย่างตรงไปตรงมา

 

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าการหาความเชื่อมโยงคดี น.ส.แอม ไซยาไนด์ โดยเฉพาะการได้มาของยาไซยาไนด์ เพื่อเพิ่มน้ำหนักในสำนวนคดี ซึ่งพบว่ายาไซยาไนด์ 1 ใน8 ขวด แอมเป็นคนสั่งซื้อเอง และทันทีที่แอมมีไซยาไนด์ก็มีผู้เสียชีวิตต่อเนื่อง11ศพ จึงทำให้ทราบความเชื่ยมโยงของคดีครบแล้วและเจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว ซึ่งแอมสั่งซื้อจากอินเตอร์เน็ตและนำมาใช้ก่อเหตุจนมีผู้เสียชีวิตในห้วงเวลาดังกล่าว11ศพในปี2564 โดยมีหลักฐานเป็นเส้นทางการเงินในการสั่งซื้อ

โดยในวันเสาร์นี้(3พ.ค.)จะมีการประชุมสำนวนเพื่อเก็บตกรายละเอียดต่างๆจากนั้นสัปดาห์หน้าจะประสานกับอธิบดีอัยการเพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งสำนวนการสอบสวนเฉพาะในส่วนของคดีแอม จำนวน15 สำนวน

จากนั้นจะมีการตรวจสอบกรณีของกรมโรงงานและผู้ซื้อทั้งหมด และดูว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีความผิดหรือไม่ รวมถึงได้มีการนัดหมายกับเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.เพื่อดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และดำเนินการรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของเว็บพนันจำนวน 78 ล้านบาท คาดว่าสัปดาห์หน้าจะตรวจสอบได้ครบทั้งหมด ก่อนจะมีการพิจารณาแจ้งข้อหากับ แอม เพิ่มเติมโดยจะไปแจ้งข้อหากับแอมที่เรือนจำก่อนจะมีการสรุปสำนวนคดีให้อัยการ ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มด้วย

 

ส่วนคนใกล้ชิดกับแอม อยู่ระหว่างการพิจารณาซึ่งพบว่าพยานบางส่วนที่เรียกมาให้การในฐานะพยานให้การไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งหากการสอบสวนเสร็จก็จะเห็นความจริงทั้งหมดและจะรู้ว่าพยานที่เรียกมาให้การโกหกหรือไม่ และจะเรียกมาสอบบางคำอีกครั้ง หากยังให้การไม่ตรงตามความเป็นจริง ถือว่าเป็นการให้การเท็จต่อพนักงานก็จะต้องถูกดำเนินคดีฐานให้การเท็จ ส่วนทนายแอมยังไม่ต้องเรียกมาสอบปากคำใหม่ เพราะเป็นผู้ต้องหาแล้วจะให้การอย่างไรก็ได้ถือว่าเป็นคำให้การของผู้ต้องหาไม่มีน้ำหนัก

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวย้ำว่าไม่ได้รู้สึกกังวลใจกรณีที่ทนายของแอม จะฟ้องร้องตำรวจ เพราะมองว่าตัวทนายทำหน้าที่ก็มีสิทธิ์จะฟ้องร้องได้หมด แต่ตำรวจก็ต้องมีข้อต่อสู้เพราะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และมั่นใจว่าจะต่อสู้ได้หมดเพราะไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร อีกทั้งการทำงานของตำรวจก็หนีไม่พ้นการขึ้นโรงขึ้นศาลดังนั้นการทำหน้าที่อยู่ในด่านหน้าก็หนีไม่พ้นการปะทะกับผู้ต้องหาหรือนักกฎหมาย ส่วนเขาจะฟ้องหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของเขาแต่ไม่ได้เสียสมาธิในการทำงาน โดยตนจะพยายามเร่งให้เร็วแต่สำนวนนี้ก็ถือว่าเร็วและรอบคอบเรียกได้ว่าเป็นสำนวนตัวอย่างเพราะชุดคลี่คลายคดีทำงานกันอย่างเต็มที่

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube