fbpx
Home
|
ข่าว

ศบค.ยกระดับ28จังหวัดคุมโควิดสูงสุด4ม.ค.-1ก.พ.

Featured Image

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยว่า การถึงการหารือในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า มีการหารือในประเด็นต่างๆพบว่า การคัดกรองแรงงานต่างด้าวยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การระบาดรอบใหม่น่าจับตามอง คือพบกลุ่มก้อนในกรุงเทพฯ ซึ่งเริ่มกระจายในหลายพื้นที่ และมีผู้เสียชีวิตโดยไม่สามารถหาความเชื่อมโยงจากศูนย์กลางการระบาดได้ ทำให้การควบคุมโรคยากขึ้น และคาดว่าจะมีการแพร่กระจายโรคเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวไปยังทุกจังหวัด ทั่วประเทศจึงจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันควบคุมโรคและมาตรการทางสังคมที่เข้มข้นขึ้นและรวดเร็ว ซึ่งจะมีประสิทธิภาพที่เพียงพอ ซึ่งจากการวิเคราะห์สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระจายไปตามพื้นที่จังหวัดต่างๆเพิ่มขึ้น โดยมีรูปแบบการแพร่ระบาดแบบเข้มข้นโดยผู้ติดเชื้อหลายคนทราบดีว่าตัวเองได้เดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงหรือร่วมกิจกรรมที่เสี่ยงจากการติดเชื้อแต่ไม่ยอมกักตัวเอง ไม่หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่น หรือไม่เข้าไปปรึกษาแพทย์ ทำให้เกิดการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นในสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงยังมีการลักลอบทำกิจกรรมมั่วสุมโดยผิดกฎหมายโดยเฉพาะการพนันเกิดขึ้นโดยทั่วไปซึ่งเป็นกิจกรรมที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดนอกจากนั้นยังมีการมั่วสุมแบบเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งด้วย ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อและมีอาการต้องการเข้ารับการรักษามีจำนวนเพิ่มขึ้นจนกระทั่งขีดความสามารถด้านสาธารณสุขทั้งบุคลากรและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ลดลงจำนวนมากถึงต้องทบทวนมาตรการโรคโควิด-19 ในภาพรวม โดยที่ประชุม ศปก.ศบค. กำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดง 28 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดตาก นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง นครนายก กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ จันทบุรี ลพบุรี ตราด ระยอง ชุมพร ระนอง และกรุงเทพฯ ส่วนพื้นที่ควบคุมหรือพื้นที่สีส้ม มีทั้งสิ้น 11 จังหวัดประกอบด้วยจังหวัดสุโขทัย กำแพงเพชรนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท เพชรบูรณ์ ชัยภูมิบุรีรัมย์ นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี พังงา ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสูง 38 จังหวัดหรือพื้นที่สีเหลือง ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสีเขียวไม่มีจังหวัดใด จึงเป็นการยกระดับขึ้นมาอยู่ในพื้นที่สีเหลืองทั้งหมด   โดยมาตรการแบ่งเป็น 2 ขั้น ขั้นที่ 1 จำกัดเวลาเปิดและปิดสถานประกอบการ ปิดสถานประกอบการที่มีความเชื่อมโยงเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ค้นหา และจับกุมกลุ่มบุคคลมั่วสุมทำผิดกฎหมาย หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกันของคนจำนวนมาก ขอความร่วมมือไม่ให้เดินทางข้ามจังหวัด สถานศึกษาหยุดการเรียนการสอนหรือใช้รูปแบบออนไลน์ ให้มีการทำงานแบบ work from home ทั่วทั้งพื้นที่ที่ ศบค. กำหนดมีมาตรการควบคุมการเดินทางของบุคคล ที่เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด เร่งการตรวจสอบค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก และการตรวจสอบสอบสวนโรคในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อและพื้นที่เชื่อมโยงที่ได้ข้อมูลการตรวจสอบโรคของสาธารณสุขโดยมีห้วงดำเนินการตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.64 เวลา 06.00 น ถึง 1 ก.พ. 64 เวลา 06.00 น ซึ่งจะต้องมีการนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามอีกครั้งในฐานะ ผอ.ศบค. ขั้นที่ 2 คือ จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้นรวมถึงจำกัดการเปิดกิจการบางประเภทด้วยปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เพิ่มความเข้มข้นในการเร่งค้นหาและจับกุมกลุ่มผู้มั่วสุมทำผิดกฎหมายกิจกรรมที่มีกลุ่มคนรวมตัวกันจำนวนมากเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการควบคุมการเดินทางข้ามจังหวัด สถานศึกษายังคงหยุดการเรียนการสอนเล่นกิจกรรมที่มีความจำเป็นเร่งรัดและเพิ่มการทำงานแบบ work from home เร่งรัดตรวจสอบค้นหาผู้ติดเชิงรุกและการตรวจสอบสวนโรคในพื้นที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง กลุ่มบุคคลเสี่ยง จำกัดเวลาเข้าออกเคหสถานในพื้นที่ ศปก.จังหวัดกำหนด ห้วงเวลาดำเนินการตามที่นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ. ศบค. เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายมาตรการในเงื่อนไขกรอบที่ศบค.กำหนด นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังเผยถึงกรณีจะมีการประกาศล็อกดาวน์ หรือประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่นั้น ว่า หากย้อนดูตัวเลข ยังมีคนฝ่าฝืนเคอร์ฟิวถูกจับกรณีเล่นการพนัน และการออกนอกเคหสถาน ซึ่งแม้จะมีการใช้ยาแรงมากขึ้น ก็ไม่สามารถจัดการกับคนที่มีเจตนา ในการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่คนที่เดือดร้อนกลายเป็นคนดีที่ทำอาชีพปกติ มีความเดือดร้อน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับการขอความร่วมมือสูงสุด การใช้กฎหมายหรือการบังคับใช้ต่างๆ ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน การใช้ยาแรงไม่ใช่ผลบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจ กลับทำให้มีผลกระทบมากขึ้น เพราะฉะนั้นตอนนี้เจ็บตรงไหนใช้ยาแรงตรงนั้น ภาพจะอธิบายให้ประชาชนทุกคนเข้าใจ คงไม่ต้องใช้มาตรการทางสังคมที่แรงเกินไป

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube