ชาวนาโคราช ทิ้งข้าวนับ100ไร่แห้งตาย หลังเสี่ยงปลูกนาปรังหน้าแล้ง ปริมาณน้ำลดลง
วันนี้ (13 มีนาคม 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาหลายพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมาที่ฝืนทำนาปรังในช่วงหน้าแล้งปีนี้กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำทำนาอย่างหนัก อย่างเช่น นายตั้ง ประชิดครบุรี ชาวนารายหนึ่ง ที่บ้านใหญ่ หมู่ที่ 12 ต.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ที่ลงทุนปลูกข้าวนาปรัง จำนวน 5 ไร่ กำลังเจอปัญหาไม่มีน้ำทำนา เนื่องจากสภาพอากาศร้อนแล้งที่กำลังทวีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้ ทำให้น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติและในบ่อเก็บกักต่างๆ ลดระดับลงอย่างรวดเร็วและบางจุดถึงขั้นแห้งขอด ต้องลงทุนเดินท่อสูบผันน้ำ เป็นระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร จากลำน้ำมูลที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด ดึงน้ำไปใส่นาข้าวที่กำลังจะยืนต้นตาย
ซึ่งตอนนี้ คลองบ้านใหญ่ที่อยู่ติดกับที่นา แห้งขอดไม่เหลือน้ำที่จะสูบขึ้นมาใช้ได้ ขณะเดียวกัน นาข้าวของชาวนาที่อยู่ข้างเคียงอีกนับสิบรายบางส่วนได้ยืนต้นแห้งตายแล้วนับร้อยไร่ เพราะขาดน้ำและเจอสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัด เกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่จำเป็นต้องปล่อยให้ข้าวยืนต้นตายเพราะไม่มีทุนที่จะสูบน้ำมาใช้เลี้ยงต้นข้าวได้อีก
นายตั้ง กล่าวว่า ปีนี้แม้ว่าชาวนาส่วนใหญ่จะรู้ดีว่า เขื่อนมูลบน ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของพื้นที่อำเภอครบุรี จะงดส่งจ่ายน้ำเพื่อส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวนาปรัง เพราะน้ำในเขื่อนมีน้อย จำเป็นต้องสงวนไว้เพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก แต่ด้วยราคาข้าวที่สูงถึงกิโลกรัมละ 10 บาท จึงเป็นสิ่งยั่วยวนใจชาวนาบางส่วนให้ตัดสินใจปลูกข้าวนาปรังช่วงหน้าแล้ง โดยหวังว่า จะพอได้ผลผลิต พอจะมีรายได้เสริมเข้ามาบ้าง แต่น้ำในลำคลองที่อยู่ข้างเคียงก็แห้งลงอย่างรวดเร็ว และน้ำในคลองบริเวณที่นาของตนตอนนี้ก็แห้งขอดจนหมดแล้ว ต้องลงทุนสูบน้ำจากลำน้ำมูลที่อยู่ห่างออกไปเกือบ 2 กิโลเมตร เพื่อนำน้ำมาเลี้ยงต้นข้าวให้อยู่รอดต่อไปอีกสักระยะ และหวังว่าจะมีฝนตกลงมาช่วย พอให้ข้าวรอดไปจนถึงช่วงเก็บเกี่ยวในอีก 2 เดือน ทำให้ตอนนี้ต้องเสี่ยงเสียเงินลงทุนกับข้าวแปลงนี้ไปแล้วเกือบ 3 หมื่นบาท ส่วนเพื่อนเกษตรกรที่อยู่ใกล้เคียง ต่างพากันถอดใจ ปล่อยข้าวให้แห้งตายไปแล้วนับร้อยไร่ เพราะไม่มีทุนจะสูบน้ำมาใช้ หากหลังจากนี้ยังไม่มีฝนตกลงมาช่วย ก็อาจจะต้องจำใจปล่อยให้ข้าวแปลงนี้เสียหาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
