ชาวโคราช มั่นใจ “เศรษฐา” ทำได้ตามนโยบายที่แถลง คนขับตุ๊กๆ วอนดึงนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวโคราชบ้าง ขณะที่พ่อค้าร้านขายข้าวแกง อยากให้ลดค่าแก๊สหุงต้มลง กก.ละ 1 บาททันที
ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา โดยมีนโยบายเร่งด่วนทั้งสิ้น 5 นโยบาย ได้แก่ เงินดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาท, การแก้ปัญหาหนี้สิน, การลดค่าค่าไฟ ก๊าซหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง, การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และการแก้ไขปัญหาความเห็นต่างในรัฐธรรมนูญนั้น
ล่าสุด วันนนี้ (12 กันยายน 2566) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถึงนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้แถลง โดยนายประนอม เกตุใหม่ อายุ 59 ปี อาชีพคนขับรถตุ๊กๆ รับจ้าง หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ลานย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตอนนี้ตนเองคาดหวังกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวมาก เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด จนถึงขณะนี้ เศรษฐกิจการท่องเที่ยวในโคราชซบเซามาก แต่ละวันแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการรถตุ๊กๆ ของตนเลย อย่างเช่นวันนี้
ตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยง ยังไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการแม้แต่รายเดียวเลย ทำให้ตนเองลำบากมาก เพราะค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียนของบุตร หลาน ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเช่ารถตุ๊กๆ ซึ่งเดิมทีเช่าวันละ 180 บาท แต่เจ้าของรถเห็นว่าลูกค้าน้อยจึงลดลงมาเหลือวันละ 120 บาท เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของตน ถึงอย่างไรก็ตามจากการที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายของรัฐบาลวันนี้ โดยเฉพาะเรื่องของนโยบายฟรีวีซ่า เพื่อดึงดูนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาประเทศไทยนั้น ตนเองก็มีความเชื่อมั่นว่าจะทำได้แน่นอน แต่เมืองโคราชไม่ใช่ปลายทางของนักท่องเที่ยวจีน จึงอยากให้นายกรัฐมนตรี ช่วยดึงนักท่องเที่ยวจีนให้มาเที่ยวโคราชบ้าง ก็จะดีมาก
ด้านนายสำรวย แซ่หั่น เจ้าของรานครัวนอกน้อย ซึ่งเป็นร้านขายข้าวแกง ตั้งอยู่ที่ถนนบัวรอง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า จากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภาวันนี้ ตนเองก็มั่นใจว่านโยบายส่วนใหญ่จะสามารถทำได้แน่นอน โดยเฉพาะนโยบายการปรับลดราคาค่าพลังงาน เช่น ค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า และค่าแก๊สหุงต้ม เป็นต้น
ซึ่งปัจจุบันมีราคาสูงมาก จนทำให้ร้านขายข้าวแกงอย่างร้านของตนเอง ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ร้านของตนเองก็ไม่กล้าขึ้นราคาตาม เพราะกลัวลูกค้าจะได้รับผลกระทบจนไม่มาอุดหนุน ถ้านายกรัฐมนตรี มีความจริงใจ และตั้งใจจริงที่จะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ก็ขอให้ทำทันที แม้ว่ากระทรวงพลังงานจะไม่ได้อยู่ที่พรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่ตนก็เชื่อว่านายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการได้อยู่แล้ว อย่างน้อยเบื้องต้นภายใน 1-2 เดือนนี้ ก็ขอให้ลดค่าแก๊สหุงต้ม กก.ละ 1 บาททันที.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
