fbpx
Home
|
ภูมิภาค

“มงคลกิตติ์” เตรียมจัดหนัก ‘บอร์ด สคร. – ครม.’

Featured Image
“มงคลกิตติ์” เตรียมจัดหนัก ‘บอร์ด สคร. – ครม.’ หากดื้อดึงต่อสัญญาตามโครงการเอกชนร่วมลงทุนปทุมธานี – รังสิต หลังพบพิรุธลดค่าต้นทุนผลิตน้ำประปา

 

 

 

ทำให้ภาครัฐเสียหายปีละ 1.5 พันล้าน – แฉแหลก ‘เสธ.น. – นักการเมือง น. – นักการเมืองผมน้อย’ ฟาดเต็มๆ รวม 1.6 พันล้าน หากดันโครงการต่อสัญญาสำเร็จ – ประกาศลั่น ‘งานนี้ต้องมีคนติดคุก’ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงข่าวถึงกรณีการต่อสัญญาโครงการให้สิทธิดำเนินการผลิตและจำหน่ายน้ำประปา ของการประปาส่วนภูมิภาค (โครงการเอกชนร่วมลงทุนปทุมธานี – รังสิต) ไปอีก 20 ปี ท่ามกลางการท้วงติงจากหลายหน่วยงานว่า

 

 

กรณีดังกล่าว ทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เคยชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะไม่มีการแก้ไขสัญญาให้สิทธิในการดำเนินการผลิต และจำหน่ายน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค ตามโครงการเอกชนร่วมทุนปทุมธานี รังสิต จนครบกำหนดสัญญาที่ตั้งไว้ 20 ปี ซึ่งจะหมดสัญญาภายในปี 2566 แต่ที่ผ่านมา ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

 

ได้มีหนังสือลงวันที่ 8 กันยายน 2565 ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ทบทวนการต่อสัญญา เพราะอาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่ง และมีหนังสือจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ท้วงติงตามเอกสารของ ป.ป.ช. ไปยังกระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการประชุมสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อให้คณะกรรมการ สคร. มีการแก้ไขสัญญาให้เอกชนมาดำเนินการ ซึ่งอาจจะมีการขยายระยะเวลาในสัญญาออกไปอีก 20 ปี

 

ซึ่งกรณีดังกล่าว ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะหากปล่อยให้มีการต่อสัญญาฯ แล้ว ภาครัฐจะเสียรายได้อย่างมหาศาล เนื่องจาก ในปัจจุบัน มีการซื้อน้ำประปาในแต่ละวันตกอยู่ที่ 400,000 ลูกบาศก์เมตร ต้นทุนลูกบาศก์เมตรละ 13 บาท โดยในสัญญาที่มีการแก้ไข จะลดเหลือเพียงต้นทุนลูกบาศก์เมตรละ 10 บาท โดยจะขึ้นราคาต้นทุนการผลิตปีละ 40 สตางค์

 

รวมทั้ง จะทำให้ค่าต้นทุนน้ำประปาจะตกเฉลี่ยลูกบาศก์เมตรละ 14 บาท และจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 500,000 ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ หากการประปาส่วนภูมิภาคดำเนินการเอง ต้นทุนในการผลิตจะตกอยู่ที่ 6 บาทต่อลูกบาศก์เมตร เพราะฉะนั้นแล้ว จะมีส่วนต่างถึง 8 บาทต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้รัฐจะต้องสูญเสียเงินรายได้ 1,500 บาทต่อปี ถ้าครบสัญญาที่จะต่อไปอีก ก็จะทำให้สูญเสียรายได้ถึง 30,000 ล้านบาท

 

 

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีผู้หวังดีมาบอกกับตนในกรณีนี้ว่า มีคนในการประปะปามีอักษร ย่อ ช มีเอกชนไปชื้อบ้านให้ที่ประเทศสิงคโปร์และยังมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นคนสนิทของ พล.อ.ประยุทธ์ มีชื่อย่อว่า ‘เสธ.น.’ โดยคาดว่า ถ้างานนี้มีการผลักดันเข้า ครม. และดำเนินการต่อสัญญาเรียบร้อยแล้ว ‘เสธ.น.’ จะได้รับเงินค่าดำเนินการถึง 300 ล้านบาท และ มีนักการเมืองใหญ่แถบภาคอีสาน อักษรย่อ น. จะได้รับเงินถึง 1,000 ล้านบาท อีกทั้ง ยังมีนักการเมืองผมน้อย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube