fbpx
Home
|
คลิปข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวต้นชั่วโมง 17.00 น.

“หมอชลน่าน” ติง”บิ๊กตู่”ยกอำนาจอธิปไตยให้ต่างชาติ กังขาเหตุใดรัฐบาลแอบเจรจาบริษัทเอกชนปิดบังคนไทยทั้งประเทศ

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธาณสุข เผยว่า กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี ใช้กฎหมายมาตรา 44 ที่72/2559 ของ คสช. ระงับการทำเหมืองแร่ทองคำเมื่อวันที่ 1 ม.ค.60 ส่งผลให้บริษัทสัญชาติออสเตรเลีย เจ้าของเหมืองอัครา  ผู้รับสัมปทานได้รับความเสียหาย จนต้องนำกรณีพิพาทเข้าสู่อนุญาโตตุลาการ เพราะบริษัทสัญชาติออสเตรเลียมองว่าการใช้มาตรา 44 ปิดกิจการเหมืองทอง ไม่ชอบด้วยกฏหมาย

ล่าสุดจากถ้อยแถลงของบริษัท เผยว่า ทางรัฐบาลไทยขอให้ทางบริษัทปกปิดข้อมูลการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับผู้แทนของบริษัท ไม่ให้เปิดเผยข้อมูลและให้ปิดเป็นความลับจนกว่าจะถึงวันที่ 31 ต.ค.64 เพราะอะไรรัฐบาลถึงแอบไปเจรจากับทางบริษัทดังกล่าว โดยไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลกับประชาชน ทั้งๆที่ประชาชนเจ้าของประเทศต้องรับผิดชอบแทนพล.อ.ประยุทธ์ ในกรณีที่คำพิพากษาออกมาว่าไทยแพ้ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจโยนภาระให้คนไทยทั้งประเทศรับผิดชอบแทน

โดยนายแพทย์ชลน่าน  กล่าวว่า หากไทยแพ้ ประเทศไทยไม่ต่างจากการสูญเสียอำนาจอธิปไตยบนแผ่นดิน เพราะรัฐบาลต้องยกที่ดินให้บริษัทดังกล่าวสามารถเข้ามาหาประโยชน์ โดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย เป็นเหมือนสภาพบังคับ นอกเหนือจากข้อพิพาททั้งสองฝ่าย ประเทศไทยจะเสียหายมูลค่ามหาศาล แม้จะเป็นการประนีประนอม แต่ก็จะเท่ากับการเอาสมบัติชาติและประชาชนไปชดใช้ความผิดพลาดของพล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. หรือแม้แต่ถ้าอนุญาโตตุลาการชี้ขาดว่าทางการไทยเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ประชาชนไทยจะต้องเป็นผู้ร่วมกันชดใช้ ซึ่งก็ไม่ใช่พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะต้องเป็นผู้ชดใช้

ทั้งนี้นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์และคณะรัฐมนตรี พยายามที่จะเลี่ยงตอบคำถามดังกล่าว เพราะคิดว่ามีรัฐธรรมนูญ คุ้มครองการกระทำของตัวเอง ซึ่งวิธีคิดเช่นนี้เป็นอันตรายต่อประเทศ ทำความเสียหายแล้วไม่ยอมรับผิดชอบ  หากมีการเปลี่ยนรัฐบาลเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย จะนำคดีเหมืองทอง  มาดำเนินการต่ออย่างแน่นอน พล.อ.ประยุทธ์จะลอยตัวเหนือความรับผิดชอบไม่ได้ เรื่องนี้ประชาชนทั้งประเทศไม่ยอมแน่

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube