ซุ่มยิงถล่มชาวสวนยางเสียชีวิตขณะกรีดยางบนภูเขา พุ่งเป้าสอบปมเหตุล้างแค้นสางบัญชีครั้งเก่ากว่า 10 ปี
พันตำรวจโทเกษม จอมพงษ์ รองผู้กำกับการหัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์เวรชันสูตร รพ.พรหมคีรี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังจากรับแจ้งเหตุจากชาวบ้านในพื้นที่
ในที่เกิดเหตุต้องเดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นสวนยางพาราพบศพนายประยูร อายุ 54 ปี ตำบลทอนหงส์ บ้านผู้ตายอยู่บริเวณเชิงเขา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร สภาพศพอยู่ในชุดกรีดยาง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณหน้าท้อง 1 นัด ศีรษะ 1 นัด แขนขวา 1 นัดเป็นแผลฉกรรจ์ เบื้องต้นนั้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายอาจใช้อาวุธปืนที่มีแรงสูงคล้ายกับขนาด 5.56 หรือเอ็ม 16 แต่ไม่พบหลักฐานระบุชัดในที่เกิดเหตุต้องรอส่งผ่าชันสูตรศพหาหัวกระสุนและตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อรวบรวมหลักฐาน และพิสูจน์ทราบจุดที่คนร้ายมารอซุ่มยิง และระบุชนิดอาวุธที่ชัดเจนในช่วงกลางวันที่มีแสงสว่างเพียงพอ
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลก่อนเกิดเหตุได้ความว่าในช่วงก่อนเที่ยงคืนนายประยูร ได้เดินเท้าออกจากบ้านริมเชิงเขาขึ้นไปบนสวนยางพาราเพื่อกรีดยางเช่นทุกคืน มีเพื่อนชาวสวนยางในละแวกเดียวกันได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดช่วงประมาณเที่ยงคืน จนกระทั่งประมาณ 2 นาฬิกาเศษ มีคนไปพบว่านายประยูร ถูกยิงเสียชีวิตแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นคาดว่าดักรอซุ่มอยู่ในสวนยางอยู่แล้ว หรืออาจตามนายประยูรเข้าไปภายหลัง หลังจากที่นายประยูรได้เข้าไปในสวนยางแล้วก็เป็นได้
เบื้องต้นชุดสืบสวนได้รวบรวมข้อมูลประเด็นการสืบสวนสอบสวน แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่พบข้อมูลว่านายประยูร เคยต้องคดีฆ่าคนตายต้องโทษจำคุกกว่า 10 ปี เพิ่งพ้นโทษมาได้ประมาณ 2 ปี และได้กลับบ้านมาทำสวนยางพาราตลอด 2 ปีไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร ทำให้เจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักในประเด็นการสืบสวนไปที่ความแค้นเก่าที่ฝ่ายคู่กรณีของนายประยูร อาจมาตามล้างแค้นหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนขยายผลและติดตามกลุ่มผู้ต้องสงสัยแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
