fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“เฮียเก้า” รายงานตัว DSI ปัดส่งขายตีนไก่ไปจีน

Featured Image
“เฮียเก้า” เข้ารายงานตัว DSI ก่อนขอกลับไปรวบรวมเอกสารเตรียมเปิดปากทุกประเด็นในวันที่ 15 มี.ค. พร้อม ปฏิเสธหนักแน่น ไม่ได้ส่งขายตีนไก่ไปจีน

 

 

 

 

วันนี้ (16 ก.พ. 67) ที่ ห้องพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ศูนย์ราชการฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า พร้อมด้วยทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย ได้เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวน นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เพื่อรายงานตัว พิมพ์ลายนิ้วมือ ภายหลังจากเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้ามอบตัวก่อนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และให้ปากคำในบางประเด็น จากทั้งหมด 30 ประเด็น และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนด้วยการวางหลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาท

 

 

พนักงานสอบสวนจึงนัดหมายให้เฮียเก้าเข้ารายงานตัวเพื่อยืนยันตัวตนว่าไม่ได้มีการหลบหนี และเตรียมสอบปากคำในประเด็นคงค้างที่เหลือ โดยเฉพาะในรายงานการสืบสวนของดีเอสไอ ปรากฏข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศระหว่างเฮียเก้าและข้าราชการฝ่ายการเมืองระดับสูง โดยประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะฉายให้เห็นถึงความสัมพันธ์สนิทสนมกัน อาทิ กรณีของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พบกิจกรรมเดินทางไปต่างประเทศกับเฮียเก้า จำนวน 3 ครั้ง ล่าสุดคือช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา

 

 

นอกจากนี้ ยังพบบุคคลอื่น ๆ อีก บางราย จำนวน 4 ครั้ง บางราย 5 ครั้ง บางราย 6 ครั้ง แต่ทั้งหมดล้วนเดินทางกันไปที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และไปเมืองมาเก๊า และกลับมายังประเทศไทยพร้อมกัน ซึ่งในเรื่องนี้ตามรายงานของพนักงานสอบสวนได้ตั้งประเด็นข้อสงสัยว่าอาจมีการนำเงินจำนวนหนึ่งไปฝากพักไว้ที่มาเก๊า ซึ่งการสอบปากคำครั้งที่ 2 ในวันนี้นั้น เฮียเก้าจะต้องชี้แจงในข้อเท็จจริง โดยจะให้ถ้อยคำอย่างไรก็ได้ เเต่ประเด็นคำถามทั้งหมดเกิดจากการที่ดีเอสไอได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขยายผลจนพบข้อมูลทั้งหมด จึงเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะแก้ข้อกล่าวหาของตัวเอง

 

 

ต่อมาเวลา 10.00 น. เฮียเก้าเดินออกจากห้องพนักงานสอบสวนภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการรายงานตัว ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามว่า วันนี้มีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ ปรากฏว่าเฮียเก้าได้ยกมือไหว้สวัสดีผู้สื่อข่าว พร้อมกับระบุว่า วันนี้พิมพ์ลายนิ้วมือเฉยๆครับ และตนสบายใจขึ้นที่ได้เข้ามาชี้แจง ก่อนยกมือปฏิเสธว่าไม่ได้ประกอบกิจการขายส่งตีนไก่ไปยังประเทศจีน ไม่ได้มีความข้องเกี่ยวเลย เมื่อถามว่ารู้จักกันกับนายสมเกียรติ หรือเฮียเกียรติ หรือไม่ เพราะในครั้งที่แล้วเฮียเกียรติยอมรับว่ารู้จักกับเฮียเก้า แต่ไม่ได้ทำธุรกิจขายส่งตีนไก่ด้วยกันนั้น เฮียเก้าไม่ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ก่อนระบุว่า “ขอแค่นี้พอครับ” จากนั้นเฮียเก้าก็ได้เดินทางกลับ

 

 

ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามถึงประเด็นของนายกรินทร์ บุตรชายของเฮียเก้า ซึ่งตกเป็น 1 ใน 5 ผู้ต้องหาเช่นกันว่าได้รับการประสานว่าจะเข้ามามอบตัวหรือไม่ เฮียเก้า ระบุว่า เขาเป็นบุตรบุญธรรมของตน และเขาต้องกลับมาสู้คดีอยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้ทำผิด เขาต้องกลับมา แต่ตอนนี้ตนยังติดต่อเขาไม่ได้ว่าจะกลับมาไทยในวันที่เท่าไร

 

 

ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยว่า วันนี้เฮียเก้าเข้ามารายงานตัวครั้งที่ 1 ภายหลังจากที่ได้รับการประกันตัวชั่วคราวไป และเราได้นัดหมายอีกครั้งในวันที่ 15 มี.ค. อีกทั้งเฮียเก้าได้แจ้งพนักงานสอบสวนว่าจะขอกลับไปรวบรวมข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อมาชี้แจงในวันที่ 15 มี.ค. เพราะวันนี้กระบวนการมีเพียงแค่รายงานตัวและพิมพ์ลายนิ้วมือเท่านั้น ส่วนประเด็นที่เฮียเก้าจะต้องเข้ามาชี้แจงในครั้งถัดไปนั้น จะเป็นประเด็นทั้งหมดที่เราสอบปากคำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผังสมาชิกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย หรือภาพถ่ายต่างๆที่เจ้าตัวถ่ายร่วมกับบุคคลอื่นๆ ซึ่งเฮียเก้ารับปากว่าจะกลับไปรวบรวมเอกสารเพื่อนำมาให้พนักงานสอบสวน

 

 

 

ส่วนกรณีของนายกรินทร์ บุตรชายของเฮียเก้า ซึ่งตกเป็น 1 ใน 5 ผู้ต้องหาในคดีนั้น พ.ต.ต.ณฐพล ระบุว่า ดีเอสไอยังไม่ได้รับการประสานติดต่อว่าเจ้าตัวจะเข้ามอบตัวในวันใด แต่ทราบว่าอยู่ที่ต่างประเทศ และเฮียเก้ายังไม่ได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับลูกชายบุญธรรมกับดีเอสไอแต่อย่างใด ส่วนการติดตามตัวกรณีที่เขาอยู่ต่างประเทศ เราก็ได้ประสานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอยู่ว่าปัจจุบันผู้ต้องหาอยู่ที่ประเทศใด เพื่อติดตามตัวกลับมาดำเนินคดี

 

 

พ.ต.ต.ณฐพล ระบุอีกว่า สำหรับรายงานการสืบสวนของดีเอสไอยังพบว่าเฮียเก้าเคยมีภาพถ่ายซึ่งบ่งบอกถึงการมีกิจกรรมเดินทางไปต่างประเทศร่วมกับข้าราชการฝ่ายการเมืองระดับสูงจริง ซึ่งในเรื่องนี้เราก็จะใช้สอบถามในวันที่ 15 มี.ค.เช่นกัน จึงอยู่ที่เฮียเก้าว่าจะชี้แจงอย่างไรบ้าง

 

 

ทั้งนี้ บุคคลที่เป็นข้าราชการฝ่ายการเมืองระดับสูงที่ไปต่างประเทศกับเฮียเก้าจะเป็นใคร ขอให้ดูได้จากภาพข่าวที่ปรากฏตามการรายงานข่าวของสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม เราจะมีการเรียกบุคคลที่ปรากฏในภาพถ่ายร่วมกับเฮียเก้ามาสอบถามถึงสาเหตุที่เข้าไปอยู่ในภาพเฟรมเดียวกัน รวมทั้งประเด็นการสืบสวนทั้งหมดของดีเอสไอ ก็จะต้องใช้สอบถามด้วยว่าทำไมจึงมีการติดต่อระหว่างกัน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

 

ทั้งนี้ พ.ต.ต.ณฐพล ระบุปิดท้ายว่า ในการดำเนินคดีกับเฮียเก้าและพวก รวม 5 รายในเลขคดีที่ 127/2566 คณะพนักงานสอบสวนคาดว่าจะดำเนินการสรุปสำนวนแล้วเสร็จส่งพนักงานอัยการในช่วงเดือน เม.ย. แต่ระหว่างนี้หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติม เราก็จะดำเนินการนำเข้าสำนวนคดีเพื่อการสอบสวนต่อไป และอาจจะมีจำนวนผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากเลขคดีนี้เราทำในรูปแบบองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนนานาชนิดกว่า 10,000 ตู้ จึงไม่แปลกที่จะมีผู้เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก และถ้าพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร เราก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมด

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube