อี้-แทนคุณ ยื่นหนังสือร้องเรียน ผบ.ตร.เร่งรัดคดีเครือข่าย”ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” หลอกลวงผู้เสียหายถอนฟ้องและชวนลงทุนบิตคอยน์
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ตัวแทนผู้เสียหายในคดีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชน เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ติดตามการดำเนินคดี นาง ฝ. หัวหน้ากลุ่มศรัทธาปาฏิหาริย์ โดยอ้างว่า นาง ฝ.เป็นผู้ที่ให้การช่วยเหลือนายประสิทธิ์ ในการหลบหนีศาล และยังได้รับมอบอำนาจจากนายประสิทธิ์จากในเรือนจำ ให้ดำเนินการฟ้องร้องผู้เสียหายในคดี และผู้ที่กล่าวหานายประสิทธิ์ในข้อหาหมิ่นประมาท
อีกทั้งยังมีหน้าที่รวบรวมผู้เสียหายจากการฉ้อโกงของ นายประสิทธิ์ โดยอ้างว่าหากถอนฟ้อง ถอนการขอคุ้มครองสิทธิ์ จะได้รับเงินชดเชยมนอัตราต่าง ๆ เมื่อนายประสิทธิ์ได้พ้นโทษแล้ว ซึ่งเบื้องต้นมีผู้เสียหายที่หลงเชื่อถอนแจ้งความไปแล้ว 19 ราย และขอถอนการคุ้มครองสิทธิ์เพื่อขอรับเงินเยียวยาจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 56 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า นาง ฝ. ได้หลอกลวงผู้เสียหายให้เข้ากลุ่มไลน์ชื่อ The Richest of HEME เพื่อให้ร่วมลงทุนในบิตคอยน์ ขณะนี้มีผู้เข้าร่วมแล้วกว่า 200 คน แต่ยังไม่มีข้อมูลความเสียหายและไม่ทราบว่าการหลอกลงทุนในบิตคอยน์จะเกี่ยวข้องกับนายประสิทธิ์หรือไม่
ทั้งนี้ ได้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวกับทางกองบังคับการปราบปรามไปแล้ว เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมปีที่ผ่านมา จึงอยากขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเร่งรัดความคืบหน้าคดีให้มีความชัดเจน เพื่อไม่ให้มีผู้ถูกหลอกลวงและได้รับความเสียหายจากมิจฉาชีพกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น และขอฝากไปยัง ป.ป.ง.ให้เร่งติดตามยึดซับจากเครือข่ายเหล่านี้และนำเงินเฉลี่ยคืนผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อน
นายแทนคุณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองก็ถูกเครือข่ายของนายประสิทธิ์ฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทเช่นกัน โดยช่วงกลางเดือนนี้ (18 ต.ค.66) จะเดินทางไปที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมากเพื่อให้ข้อมูล โดยยืนยันว่าจะต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นการให้ข้อมูลโดยสุจริต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
