fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“พร้อมพงศ์” แฉ “ชูวิทย์” เคยเจรจา ซื้อขายที่ดินให้แสนสิริแต่โดนปฏิเสธ

Featured Image
พร้อมพงศ์ แฉ ชูวิทย์ เคยเจรจา ซื้อขายที่ดิน ให้บริษัท แสนสิริ แต่โดนปฏิเสธ อาจจะเป็นเหตุให้ ชูวิทย์พยายาม สกัด เศรษฐา

 

 

 

วันนี้ (7 ส.ค66) ที่โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ รัชดา นาย พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ได้แถลงเกี่ยวกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่ออกมาแฉเพื่อชาติ หรือแฉเพื่อใคร?

 

 

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า วันนี้ทนายความได้ไปฟ้องนายชูวิทย์ ในข้อหาหมิ่นประมาท แล้วที่นายชูวิทย์อ้างว่าเป็นการฟ้องปิดปากนั้น ยืนยันว่าเป็นการใช้สิทธิ์ของนายเศรษฐา ทวีสิน ไม่มีใครปิดปากนายชูวิทย์ได้ ถ้าบริสุทธิ์ใจ ตั้งข้อสังเกตว่าที่ข้อมูลบริษัทแสนสิริ มาจากเอกชนมานานแล้วทำไมตรวจสอบมาตั้งนาน แต่ปล่อยไว้จนนายเศรษฐา มีชื่อโหวตนายกรัฐมนตรี อยากถามว่าถ้านายชูวิทย์ ยึดประโยชน์สาธารณะอะไร

 

 

ซึ่ง เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ แถลงข่าวว่ารัฐเสียหาย 500 ล้านบาท เพราะนายเศรษฐา ทำนิติกรรมอำพรางไม่ซื่อสัตย์สุจริต เรื่องนี้ไม่ซับซ้อนเหมือนนายชูวิทย์จับแพะชนแกะพูดความจริงเรื่องเดียว ซึ่งผู้ขายเขาได้กรรมสิทธิ์โดยการแบ่งคืนให้ผู้ถือหุ้นคนละวันกัน ในทางกฏหมายไม่ถือว่าบุคคลดังกล่าวได้กรรมสิทธิ์รวมที่ดินพร้อมกัน และกฎหมายอนุญาตให้ผู้ขายทำได้ตามระเบียบกรมที่ดินและกรมสรรพากร เชื่อว่าตั้งใจให้เข้าใจบิดเบือนและไม่พูดความจริงทั้งหมด หากพูดความจริงทั้งหมดจะกล่าวหานายเศรษฐาไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม บริษัทแสนสิริได้ซื้อที่ดินตามกฎหมาย และเรื่องนี้ไม่มีปัญหาอะไรเลย

 

 

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า บริษัทแสนสิริ เป็นนิติบุคคลที่มีบริหารหลายคน ทำไมจ้องเล่นงานนายเศรษฐา เพียงคนเดียว ยืนยันว่านายเศรษฐา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนราคาที่ดินที่ซื้อตั้งอยู่ถ.สารสิน ตรงข้ามสวนลุมพินี ทุกคนในวงการอสังหาริมทรัพย์รู้ดีว่าเป็นเหมือนทำเลทอง ดังนั้นราคาที่ดินที่ออกมาเป็นราคาปกติตามท้องตลาด ส่วนราคาที่ดินที่อยู่ซอยสุขุมวิท 24 ของนายชูวิทย์ และครอบครัว ตกตารางวาละเกือบ 3 ล้านบาท ฉะนั้นราคาก็ไม่ต่างกัน เพราะราคาที่ดินจะแพงหรือไม่แพงอยู่ที่ทำเล

 

 

นายพร้อมพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีหลักฐานภาพถ่ายนายชูวิทย์ พบกับนายเศรษฐา ผู้บริหารบริษัทแสนสิริ ณ ขณะนั้น เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 65 เพื่อเสนอชื่อที่ดินแปลงตัวเองเสนอขายให้บริษัทแสนสิริ ที่เคยขายบริษัทไรมอนแลนด์ ซึ่งบริษัทไรมอนแลนด์ได้มัดจำ 4 ร้อยล้านบาทมาแล้ว แต่มีปัญหาหลายอย่าง จึงขอยกเลิกสัญญาและยึดเงินมัดจำ และเรียกค่าเสียหาย

 

 

ทั้งนี้ เมื่อมาเสนอขายกับบริษัทแสนสิริ จะต้องเคลียร์สัญญากับผู้ขายรายเก่าก่อน แต่บริษัทแสนสิริปฏิเสธเรื่องที่ซื้อที่ดินดังกล่าว ต่อมานายชูวิทย์ ได้มาเสนอขายอีกครั้งในราคา 2 พันล้านบาท และถูกปฏิเสธจากผู้บริหารแสนสิริ เพราะมีปัญหาข้อกฎหมาย นี่อาจจะเป็นปัญหาที่ทำให้นายชูวิทย์โกรธเคืองหรือไม่

 

 

และภาพที่ปรากฏต้องบอกว่านายชูวิทย์ไม่ได้สนิทกับนายเศรษฐาที่มาพบและนั่งกินกาแฟเพียงเฉยๆ นี่ตรงกันข้ามกับนายชูวิทย์ที่บอกไม่มีวาระซ่อนร้อน ถามว่าที่นายชูวิทย์ที่บอกแฉเพื่อชาติแต่ต้องการแฉเพื่อใคร ตนถามว่าที่ออกมาแฉเพื่อชาติและกล่าวหานายเศรษฐา แบบสาดโคลนก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรีไม่กี่วัน มีเป้าหมายให้นายเศรษฐาขัดคุณสมบัติ หรือไม่ รับงานใครมาหรือเปล่า

 

 

หรือหวังผลทางการเมืองให้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ส่วนที่ระบุว่านายนายเศรษฐา มีนิติกรรมอำพราง ตนเห็นว่าคนที่มีนิติกรรมอำพรางคือนายชูวิทย์มากกว่าในกรณีที่ดินสวนชูวิทย์ ซึ่งในฐานะที่เป็นคณะทำงานด้านกฎหมาย นายเศรษฐา ก็ยินดีให้นายชูวิทย์ตรวจสอบ รวมถึงหน่วยงานราชการ องค์กรอิสระ และภาคประชาชน

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube