fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“อัจฉริยะ” ร้อง ดีเอสไอ เปลี่ยนตัวพงส. หุ้น STARK

Featured Image
อัจฉริยะ ร้อง ดีเอสไอ เปลี่ยนตัวพงส. หุ้น STARK ส่อเอื้อผู้ต้องหา หวั่น ผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

 

 

วันนี้ (21ก.ค. 66) ที่ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนและเลขานุการคณะพนักงานสอบสวน คดีหุ้นสตาร์ค เนื่องจากเล็งเห็นว่ามีการถือสำนวนส่อไปในทางไม่สุจริต และอ้างว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้มีความสนิทสนมกับผู้ต้องหาในคดี ทั้งยังเป็นภรรยาผู้ถือหุ้นใหญ่หากให้อยู่ทำคดีจะไม่เกิดความเป็นธรรมต่อผู้เสียหาย โดยมี เจ้าหน้าที่หน่วยบริการประชาชน กองบริหารคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง

 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว มีการตรวจสอบพบว่าคณะกรรมการพิเศษคดีนี้ ปรากฏมีคนถือสำนวนคดีสตาร์ค 1 ราย ได้แก่นางป. (นามสมมุติ) เป็นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษคดีสตาร์ค ซึ่งนาง.ป มีความสนิทสนมกับอดีตประธานกรรมการบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และอดีตประธานรายนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ยังไม่ใช่ผู้ถูกกล่าวโทษใน 10 รายชื่อที่ ก.ล.ต.ร้องทุกข์ไว้ อีกทั้งอดีตประธานฯ ยังเป็นอดีตผู้บริหารระดับสูงของกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกด้วย

 

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ตนเล็งเห็นว่าหากปล่อยให้นางป. ถือสำนวนนี้ จะก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก และภาพลักษณ์กรมสอบสวนคดีพิเศษจะไม่น่าเชื่อถือ ตนจึงประสงค์ขอให้อธิบดีดีเอสไอทำการถอนตัวนางป.ออกจากการทำคดีดังกล่าว เนื่องจากนางป. ทราบอยู่แล้วว่าเนื้อหาภายในสำนวนเป็นอย่างไร และอาจจะนำไปบอกกล่าว ให้ความช่วยเหลือในมิติที่เป็นประโยชน์ต่อ
อดีตประธานฯ หรือผู้ต้องหาอื่นๆได้

 

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า นางป. ยังมีการแอบเอาเนื้อหาภายในสำนวนคดีบางส่วน ออกไปให้ลูกชายของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับหุ้นสตาร์คเช่นกัน จนเป็นสาเหตุที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าผู้บริหาร เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดประธานกรรมการบริษัทสตาร์คฯ โดยอ้างว่าตัวเองเป็นผู้เสียหาย อาจจะเพราะว่ารู้ข้อมูลภายในสำนวนเลยจะหาช่องให้ตัวเองรอดจากการถูกดำเนินคดี

 

 

นอกจากนี้ ตนยังทราบว่านางป. มีพฤติการณ์วิ่งเต้นคดีกับ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีสตาร์ค เพื่อขอให้ช่วยเหลืออดีตประธานฯ แต่ปรากฏว่า พ.ต.ต.ยุทธนา ไม่ทำเช่นนั้น ไม่ขอช่วยเหลือ เพราะต้องทำคดีอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงในเรื่องนี้ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน มีเพียงนางป. เท่านั้นที่มีพฤติกรรมลักษณะนี้

 

 

ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ ทิ้งท้ายว่า จริงๆแล้วในเรื่องนี้มีบุคคลซึ่งอยู่ในฝ่ายการเมืองฝากตนมาให้จัดการ คาดว่าหลังจากนี้เจ้าตัวจะเดินทางมายังดีเอสไอเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีอีกด้วย

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube