เริ่มแล้ว กลุ่มสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ สปท.ชุมนุมที่ลานหอศิลป์แยกปทุมวัน “ปักหมุดหยุดเผด็จการ หนุนรัฐบาลเสียงประชาชน” รวม 11 วัน
บรรยากาศที่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ (หอศิลป์) ได้มีกลุ่ม สภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ สปท.และภาคเครือข่ายเดินทางมารวมตัวกันตามที่ได้มีการนัดหมายชุมนุม วันที่ 20 ก.ค. – 30 ก.ค. 2566 รวม 11 วัน โดยในวันอาทิตย์ 23 ก.ค.นี้ จะรวมกิจกรรมเดินขบวนรอบแยกปทุมวัน และใช้เส้นทาง สยามสควร์-มาบุญครอง-สามย่าน-จุฬาฯ-สยามพารากอน-เซ็นทรัลเวิร์ด-ประตูน้ำ ฯลฯ “ปักหมุดหยุดเผด็จการ หนุนรัฐบาลเสียงประชาชน” โดยแกนนำและเครือข่ายต่างสลับกันปราศรัยโดยมีประชาชนได้หยุดฟังและส่งเสียงให้กำลังใจผู้ชุมนุมด้วย
นายสิงห์สยาม มุกดา แกนนำสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย เปิดเผยถึงสาเหตุที่ออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวที่กรุงเทพฯว่า เนื่องจากปัจจุบันประชาชนเริ่มมีความวิตกกังวลกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ ที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ รวมทั้งการเลือกนายกรัฐมนตรีที่มาจากเสียงข้างมากของประชาชน
เนื่องจากถูกขัดขวางจาก สว. ซึ่งตนเองพักอาศัยอยู่ที่ภาคใต้เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกมาชุมนุมเรียกร้อง เพื่อส่งเสียงไปยังนักการเมือง และ สว. ให้ปฎิบัติตามเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน โดยจะรวมตัวชุมนุมกันเป็นเวลา 11 วันต่อเนื่อง แต่ถ้าหาก สว. อย่างนิ่งเฉยกับเสียงเรียกร้องของประชาชน ตนเชื่อว่าจะมีประชาขนออกมารวมตัวกันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายสิงห์สยาม กล่าวด้วยว่าประชาชนคนไทยทั้งประเทศต่างรู้สึกอึดอัดและหาทางออกไม่ได้ ตนเองก็มาจากภาคใต้ ประสบกับปัญหาราคายางพาราตกต่ำมา 8-9ปี เศรษฐกิจแย่มาก รู้สึกอึดอัดและเชื่อว่าคนทั้งประเทศก็รู้สึกไม่แตกต่างกันและเดือดร้อน เพราะต่างใจจดจ่อว่าอยากได้รัฐบาลที่มาจากเสียงข้างมาก แต่พอเข้าสภาแล้วมาติดขัดที่ สว.250 คน
แต่เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้แบบนั้นก็เคารพกฎหมาย แต่ทำไม สว.250 คน ไม่คิดถึงใจคนทั้งประเทศว่า ต้องการอะไรและทำไมไม่ลดบทบาทลดอำนาจที่มาจากเผด็จการจากคราวที่ยึดอำนาจนั้น เพื่อให้ประชาชนได้รัฐบาลที่มาจากเสียงประชาชนทำไมไม่ทำ หรือมีอำนาจอะไรอยู่เบื้องหลัง ซึ่งหากคิดว่าอำนาจที่อยู่เบื้องหลังนั้น ยิ่งใหญ่กว่าประชาชนเราในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยก็จะแสดงให้เห็นว่าอำนาจแท้จริงอยู่กับประชาชน
เพียงแต่ว่าประชาชนตัวเล็กตัวน้อยการจะมารวมกลุ่มให้มากในเวลาอันสั้นทำไม่ได้ ด้วยภาวะปากท้องงเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ดังนั้นจึงมาจัดคิกออฟที่กรุงเทพฯเพื่อจุดประกาย แต่ก็ทราบว่าต่างจังหวัดเองก็มีการเคลื่อนไหวมาก่อนแล้ว ทั้งมหาวิทยาลัยในภูมิภาคและกรุงเทพฯเพียงแต่เสียงที่อยู่ในรั้วยังไม่มากพอที่จะทำให้คนในอำนาจโดยเฉพาะ สว.ได้ตระหนักและหันกลับมามองประชาชนว่า เขาต้องการอะไร
แต่ตอนนี้ยังกอดอำนาจไว้ทั้งที่คนส่วนใหญ่ยอมรับกติกากันแล้ว ไปเลือกตั้งกันอย่างถล่มทลายแล้ว จะมีทางอื่นอีกหรือไม่ที่จะทำให้ สว.สำนึก และเห็นว่าอำนาจถ้าเป็นของประชาชนแท้จริงประชาชนก็ต้องออกมาแสดงออก กลุ่มตนเองจึงเสียสละออกมาแสดงพลังว่าพร้อมแล้วที่จะลงถนน ยอมนอนกลางดิน กินกลางทราย จนกว่าจะได้รัฐบาลประชาชน
ทั้งนี้ นายสิงห์สยาม ยังเรียกร้องไปยังพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาลว่าอย่ายอมแพ้โดยง่ายอย่ายอมไปเป็นฝ่ายค้านเพราะการกดดันของ สว.และอย่าได้มีพรรคใดพรรคหนึ่งไปเอาพรรคอำนาจเก่ามารวมเป็นรัฐบาลเราไม่ยินยอมและพร้อมจะเดินขบวนไปกดดันเรียกร้องว่าเสียงของประชาชนไม่ต้อนรับอำนาจเก่าการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ ที่มาจากการรยึดอำนาจนั้น
พร้อมยินดีหากจะมีองค์กรหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาแสดงความคิดเห็น(ดีเบต)ตนก็ยินดีไม่ปิดกั้น โดยการปักหลักชุมนุม 11วันนับจากวันนี้ ขอให้นักการเมืองและผู้มีเจตนาดีที่จะช่วยเหลือประเทศชาติ ไม่ว่าอยู่ฝ่ายไหนมาพูดคุยกันด้วยเหตุผลไม่มีการทะเลาะหรือใช้กำลัง เพื่อให้ได้ข้อสรุปและเสนอไปยัง สส.และสว.ตนเชื่อว่าเป็นทางออกที่ดีและได้รัฐบาลของประชาชนอย่างแท้จริง
พร้อมระบุ หากประชาชนที่สามารถมาร่วมกิจกรรมได้ก็อยากให้มารวมพลังกัน มาร่วมกันแสดงจุดยืน ส่วนต่างจังหวัดแม้มารวมกันที่กทม.ไม่ได้ก็สามารถแสดงจุดยืนในพื้นที่ได้ทั้งระดับตำบลและจังหวัด หากวันใดจำเป็นต้องเผด็จศึกหรือรวมพลังกันครั้งใหญ่จะมีการนัดหมายกันแต่ทั้งหมดขอให้อยู่ในความสงบปราศจากอาวุธอย่าทะเลาะเบาะแว้งหรือใช้กำลังกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
