fbpx
Home
|
อาชญากรรม

สาวถูกหนุ่มแสบหลอก ให้รักลวงออกรถป้ายแดงร้องตร.

Featured Image
สาวถูกหลอกให้รัก แล้วให้มาออกรถยนต์ป้ายแดงก่อนนำไปขายต่อ รวมตัวแจ้งความกองปราบ พบผู้เสียหายกว่า 20 คน เสียหายกว่า 50 ล้านบาท

 

 

 

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมผู้เสียหาย จะเข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม เพื่อขอให้ติดตามจับกุมตัวนายจิรากรฯ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากกรณีที่ผู้เสียหายถูกนายจิรากรฯ เข้ามาตีสนิทอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) นอกเครื่องแบบ และประกอบธุรกิจส่วนตัวปล่อยรถให้เช่า หลอกคบหาเป็นแฟน และให้ช่วยเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์แล้วเชิดรถหลบหนีไป จนทำให้ผู้เสียหายถูกฟ้องร้องจากไฟแนนซ์

 

 

มีผู้เสียหายรวมว่า 20 คน มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านนางสาวเอ ผู้เสียหายรายแรก เล่าว่า รู้จักกับนายจิรากร ผ่านทางแอปพลิเคชั่นหาคู่ซึ่งนายจิรากร ได้แอบอ้างตัวโดยใช้ชื่อว่านายอาคม คัมภิรานนท์ หรือเต้ แนะนำตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนจะมีการแลกไลน์และทักมาตีสนิทและคบหาดูใจกันประมาณ 1 ปี

 

 

ทางนายจิรากร ได้มีการแอบอ้างว่าทำธุรกิจหลายอย่าง เช่น ร้านอาหาร สถานบันเทิง และธุรกิจเช่ารถ ซึ่งได้ชักชวนให้นางสาวเอ มาร่วมลงทุน โดยให้ไปทำสัญญาซื้อรถป้ายแดง เพื่อนำมาทำธุรกิจ ซึ่งตนก็เชื่อใจ เพราะนายจิรากร ได้เคยขับรถมาหาหลายคัน ทำให้หลงเชื่อว่าทำธุรกิจจริง ตนเองจึงยอดซื้อรถให้รวมทั้งหมดจำนวน 6 คัน มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

 

 

หลังจากนายจิรากรได้รถไปแล้ว พฤติกรรมก็เปลี่ยนไป ไม่มีการจ่ายเงินผ่อนชำระงวดรถอย่างที่เคยพูดไว้ ตนเองมีการทวงถามตลอด แต่นายจิรากรกลับอ้างว่ามีปัญหา รถเกิดอุบัติเหตุ ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าอุบัติเหตุ ลูกค้าทำรถหาย เป็นต้น จนตอนนี้ทำให้ตนเองถูกไฟแนนซ์ฟ้องร้องเป็นคดีความ ต้องไปขึ้นศาล ตอนนี้บ้านมีหนี้จำนวนมาก ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้หนี้

 

 

ด้านนางสาวบี อีกหนึ่งผู้เสียหาย กล่าวว่า ถูกชายคนนี้มาตีสนิทเช่นกัน และอ้างตัวว่าเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด ให้มาช่วยเหลือเรื่องเงิน เนื่องจากขับรถไปชนคนจนได้รับบาดเจ็บ และขอให้โอนเงินมาช่วยเหลือรวมกว่า 6 หมื่นบาท เพื่อไปซ่อมรถและจ่ายค่าเสียหายให้ผู้บาดเจ็บ ไม่เช่นนั้นจะถูกไล่ออกจากราชการ

 

จากนั้นสร้างเรื่องอีกว่าถูกเพื่อนหักหลัง เครียด จะฆ่าตัวตายให้ ขอให้มาช่วยทำธุรกิจ เพราะไม่สามารถนำเงินกว่า 1.5 ล้านบาทออกจากบัญชีได้ เพื่อจะไปซื้อรถมาทำธุรกิจรถเช่า จึงให้ช่วยไปออกรถยนต์ป้ายแดงให้เป็นรถยนต์ 4 คัน จักรยานยนต์อีก 1 คัน และได้กู้เงินนอกระบบให้เป็นเงินสด 2.5 ล้านบาท มูลค่ารวมกว่า 6.8 แสนบาท ซึ่ง 2-3 เดือนแรกนายจิรากรจ่ายงวดรถตามปกติ หลังจากนั้นเงียบหายไป

 

 

ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบข้อมูลจองนายจิรากร พบว่ามีการหลอกเอาเงินไปเที่ยวเล่น ไม่ได้ทำธุรกิจจริง ไม่ทราบที่อยู่เป็นหลักแหล่งที่ชัดเจน และมีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ตลอด ปิดบังตัวตนทุกอย่าง

 

 

อีกรายคือนางสาวซี เล่าว่า รู้จักนายจิรากรผ่านเพื่อนร่วมงาน หลังจากนั้นก็มีการติดต่อพูดคุยกันมาตลอดประมาณเกือบ 1 ปี มีการแนะนำตัวแอบอ้างว่าเป็นทั้งตำรวจ ข้าราชการครู โดยตนเองถูกหลอกในลักษณะเดียวกับรายอื่นคือหลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจรถเช่า ให้ตนเองไปออกรถให้เพื่อนำมาทำธุรกิจ อ้างว่าจะโอนเงินดาวน์รถให้ และจะจ่ายค่างวดเอง จนตนเองไปออกรถให้เป็นรถยนต์ 3 คัน จักรยานยน์ 2 คันและบิ๊กไบท์ 1 คัน รวมเป็นเงิน 5.1 ล้านบาท และนำรถกระบะของพ่ออีก 1 คันไปร่วมปล่อยเช่า และยังไม่ได้รถคืนจนปัจจุบัน

 

 

ทั้งนี้ในช่วงแรก 5-6 เดือนแรก นายจิรากร ส่งค่างวดตลอด หลังจากนั้นเงียบหายไป ไม่จ่าย จนไฟแนนซ์โทรมาตาม ซึ่งตนเองได้ทวงถามนายจิรากรตลอด แต่กลับอ้างว่าติดธุรกิจ รถชน ถูกเพื่อนโกง ต้องเอาเงินไปจ่ายต่างๆ เคยขอรถคืนแต่สุดท้ายกลับไม่คืนและติดต่อไม่ได้

 

 

ทั้งนี้นอกจากผู้เสียหายทั้ง 3 รายนี้แล้ว ยังมีผู้เสียหายอีก 1 ราย ที่ถูกหลอกที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายอาศัยอยู่แม่ 2 คน เมื่อเกิดเรื่องทำให้แม่ของผู้เสียหายรับไม่ได้จนต้องฆ่าตัวตาย ส่วนตัวผู้เสียหายป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ปัจจุบันยังรักษาตัวอยู่ โดยตอนที่ไปแจ้งความตำรวจไม่ไม่รับแจ้งความหรือรับเรื่องใดๆ โดยอ้างว่าเป็นเรื่อง ผัวเมีย ให้ไปเคลียร์กันเอง

 

 

อย่างไรก็ตาม ยังพบอีกว่า นายจิรากรก่อเหตุหลอกลวงผู้อื่นมาตั้งแต่ปี 2564 จนตอนนี้มีผู้เสียหายประมาณเกือบ 20 คน ในพื้นที่หลายจังหวัด เช่น ขอนแก่น เชียงใหม่ เชียงราย และพิษณุโลก ซึ่งตอนนี้ไม่สามารถตามตัวได้เพราะบัญชีที่โอนเงินเข้าเป็นบัญชีม้าทั้งหมด โดยก่อนหน้านี้นายจิรากรถูกจับแล้วที่ขอนแก่น ในข้อหา ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และยักยอกทรัพย์ แต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและได้ประกันตัวออกมา หลังจากนั้นได้มีการข่มขู่ ด้วยการโพสผ่านเฟสว่า ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานอยู่ เตรียมจะฟ้องกลับ

 

 

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้มายื่นเรื่องให้กับพลตำรวจตรี มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม เพื่อขอให้ติดตามจับกุมตามหมายจับ และขอโอนคดีมาที่กองปราบ เพื่อให้ง่ายต่อการสืบสวน เพราะผู้เสียหายมีจำนวนมาก และยอดเงินเยอะ กลัวจะไม่ได้รับความยุติธรรม

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube