fbpx
Home
|
อาชญากรรม

รวบชายโกงเบิกยา รพ.รัฐ เสียหายกว่า 1.2 ล้านบาท

Featured Image
ตํารวจกองปราบฯ ดักรวบชายโกงเบิกยา คาโรงพยาบาลรัฐชื่อดังย่าน กทม. พบทํามานานกว่า 6 ปี เสียหายรวมกว่า 1.2 ล้านบาท

 

 

พ.ต.ท.บุรินทร์ กะปิตถา สว.กก.1 บก.ป. พร้อมด้วย ร.ต.ท.เอกกรินทร์ ทองหยด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายสุโข อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงดอนเมือง โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” โดยจับกุมได้ที่บริเวณโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

 

 

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติในการเข้าใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลฉุกเฉินของผู้ป่วยรายหนึ่ง โดยพบว่า มีการขอเข้ารับการรักษาฉุกเฉินโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง จำนวนหลายครั้ง ทุก 2-3 วัน กับทางโรงพยาบาลของรัฐในหลายจังหวัดและขอใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพในการเบิกจ่ายยารับประทาน, ยาพ่นและค่ารักษา ทำให้เกิดความเสียหายรวมกว่าล้านบาท

 

 

จากการสืบสวนสอบสวน พบว่าผู้ต้องหาได้เข้ารับบริการในหลักประกันสุขภาพหลายแห่ง ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันและเมื่อตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ถึงปี พ.ศ. 2559 พบว่ามีการขอเข้ารับบริการกรณีฉุกเฉินข้ามจังหวัดด้วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคอื่นๆ เป็นจำนวนมากถึง 675 ครั้ง และเกือบทุกครั้งผู้ต้องหาจะได้รับยาในลักษณะเดียวกันทั้งชนิดยาเม็ดและยาพ่นสำหรับรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ซึ่งยาดังกล่าวตามหลักการแพทย์ สามารถพ่นได้ 200 ครั้ง/ขวด หรือใช้ได้นานถึง 60 วัน

 

 

ราคาทั่วไปตามท้องตลาดยาพ่นดังกล่าวมีราคาสูงถึงประมาณ 350-400 บาท เป็นต้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่าผู้ต้องหาจะมีอาการป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาและขอรับยารักษาจำนวนมากจากหลายโรงพยาบาลต่างพื้นที่ในเวลาเดียวกัน ทำให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับความเสียหายตั้งแต่ พ.ศ.2553 ถึงปี พ.ศ. 2559 คิดเป็นเงินจำนวน 1,231,790.86 บาท

 

 

ประเด็นเรื่องของกฎหมายรองรับ เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยมีเพียงกฎหมายการปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าง กทม. และเมืองพัทยา ที่เราไม่ได้เรียกว่า “เขตปกครองพิเศษ” ซึ่งการกำหนดการบริหารจัดการพิเศษใน 3 จังหวัดภาคใต้ ภายใต้รูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จำเป็นที่จะต้องพิจารณารูปแบบกฎหมายที่จะรองรับ ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาแก้ไขกฎหมายหรือเสนอกฎหมายใหม่ขึ้นมา

 

 

 

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องของการสร้างค่านิยมที่ผิดในพื้นที่เรื่องการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งจะต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยน ทำความเข้าใจร่วมกันระหว่าง ประชาชนในพื้นที่ กลุ่มต่างๆที่มีการเคลื่อนไหว กมธ. และผู้ร่างกฎหมาย รวมทั้งประชาชนทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง ไม่ใช่การรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ส่วนกลางหรือหน่วยงานบางหน่วยงาน

 

 

อย่างไรก็ตามการกระจายอำนาจจะเป็นการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการดูแลพื้นที่ของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยเรื่องดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องใช้รัฐสภาเป็นกลไกในการพิจารณากำหนดและออกกฎหมาย

 

 

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจึงส่งเจ้าหน้าที่ตัวแทนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาจะมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ พบผู้ต้องหามารับการรักษาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวและทำการจับกุม จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาไม่ยอมให้การในชั้นจับกุม แต่ขอให้การในชั้นสอบสวน

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube