ตำรวจเผย เจอเหยื่อแอมไซยาไนด์เพิ่ม 2 ราย ด้านผู้ประสานงานฯ แนะ 5 ข้อสังเกตกลุ่มเหยื่อเบื้องต้นหากเกี่ยวข้องขอให้ติดต่อประสานมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
วันนี้(27 เม.ย.66) นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอมไซยาไนด์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่ น.ส.สรารัตน์ หรือแอม อายุ 36 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังก่อเหตุใช้สารไซยาไนด์ฆ่าเหยื่อเสียชีวิตที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นต่ออย่างเนื่อง
นายรพี กล่าวว่า เบื้องต้นสามารถแบ่งกลุ่มเหยื่อที่เกี่ยวข้องกับ แอม ได้ 5 กลุ่ม กลุ่ม 1. คือ กลุ่มผู้ที่เล่นแชร์กับแอมแล้วเสียชีวิต 2. กลุ่มที่แอมยืมเงินแล้วเสียชีวิต 3.กลุ่มคนที่ให้เงินกับแอมไปปล่อยเงินกู้เก็บดอกเบี้ยแล้วเสียชีวิต 4.กลุ่มคนที่เอารถยนต์ไปจำนำ หรือเอาทรัพย์สินไปให้นางสาวแอมดำเนินการจำนำก่อนเสียชีวิตและ 5.กลุ่มที่ทำธุรกรรมเกี่ยวกับการกู้เงินสหกรณ์โดยให้แอมดำเนินการแทนก่อนเสียชีวิต ซึ่งนายรพีฝากถึงญาติของกลุ่มคนเสียชีวิตที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับนางสาวแอมและอยู่ในกลุ่มลักษณะดังกล่าวให้ติดต่อประสานมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ รวมถึงหมอดูที่ก้อยได้ติดต่อก่อนเสียชีวิต ก็อยากให้เข้ามาให้ข้อมูลกับทางตำรวจด้วย
นายรพี กล่าวอีกว่า เคสในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ที่เสียชีวิต 10 ปีที่แล้ว ที่ตัวเองนำมาเปิดเผยเมื่อวานนี้ ล่าสุดพบข้อมูลญาติ โดยกำลังติดต่อประสานงานกับทางแม่ผู้เสียชีวิตให้เข้ามาให้ข้อมูล โดยเบื้องต้นทราบข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตเคยซื้อตึกใกล้กับภาวนาพุทโธ ซึ่งทางญาติติดใจสาเหตุการตายเนื่องจากติดต่อกับแอมก่อนเสียชีวิต เช่นเดียวกับเหยื่อรายอื่นๆ และหากการเสียชีวิตเชื่อมโยงกับแอมจริงก็จะเป็นเคสแรกๆที่แอมก่อเหตุ
นอกจากนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองได้รับการติดต่อจากครอบครัวของครอบครัวของผู้เสียชีวิตอีกราย ชื่อ “นิด” เป็นวิศวกร เสียชีวิตพื้นที่จังหวัดนครปฐม เมื่อปี 2563 ซึ่งจากข้อมูลแอมอยู่กับเหยื่อคนนี้ก่อนเสียชีวิต ซึ่งรายละเอียดของเหยื่อรายนี้ตัวเองยังรอข้อมูลจากญาติและจะนำมาเปิดเผยข้อมูลในวันพรุ่งนี้ พร้อมเปิดเผยเบื้องต้นว่าเหยื่อรายนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับรถฟอจูนเนอร์สีขาว ที่ตำรวจตรวจสอบไปเมื่อวานนี้ ซึ่งอยากให้ทางตำรวจไปตรวจสอบเกี่ยวกับทะเบียน ผู้เช่าซื้อ รวมถึง ไฟแนนซ์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews