fbpx
Home
|
อาชญากรรม

แพทย์ย้ำ ฝีดาษวานร อาการไม่รุนแรง

Featured Image
กรมควบคุมโรค เฝ้าระวังควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานร ย้ำอาการไม่รุนแรง โอกาสแพร่เชื้อต่ำ

 

 

วันนี้ (1 สิงหาคม 2565) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้การระบาดของไวรัสฝีดาษวานร (Monkeypox)

 

เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern : PHEIC) กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมแนวทางและดำเนินการตอบสนองต่อสถานการณ์ทั้งด้านการเฝ้าระวังโรค การป้องกัน และการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง

 

สถานการณ์โรคฝีดาษวานร (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2565) พบผู้ป่วยยืนยัน ทั่วโลก 22,816 ราย (เพิ่มขึ้น 6,502 ราย) ใน 76 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 5,189 ราย สเปน 4,386 ราย เยอรมัน 2,595 ราย อังกฤษ 2,469 ราย และฝรั่งเศส 1,955 ราย

 

ส่วนสถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทย พบผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย มีรายงานผู้สัมผัส 42 ราย ครบการกักตัวแล้วทั้งหมด 3 ราย และมีผู้เข้าเกณฑ์ป่วยสงสัย 30 ราย และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการผู้ป่วยสงสัยทั้ง 30 ราย

 

ไม่พบเชื้อฝีดาษวานร ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ติดตามและประสานงานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ เร่งค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรและความปลอดภัยของประชาชน

 

นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อไปว่า องค์การอนามัยโลก แนะนำว่ายังไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนฝีดาษวานรให้กับประชาชนในวงกว้าง แต่อาจฉีดในกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ด้านหน้า ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วย หรือเจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อ (LAB)

 

ซึ่งกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้มีโอกาสสัมผัสเชื้อได้มากกว่าคนทั่วไป และขอย้ำว่าโรคฝีดาษวานร ไม่ได้ติดต่อง่ายเหมือนโรคโควิด 19 ผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย โดยเฉพาะผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนหลายคน

 

ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ ดังนั้นมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 ยังสามารถใช้ได้กับโรคฝีดาษวานร โดยเน้นล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยที่มีตุ่มหนองหรือผู้ป่วยต้องสงสัย หลีกเลี่ยงมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงหรือคู่นอนที่ไม่รู้จัก

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube