fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ปิยบุตรรับทราบข้อกล่าวหา ม.112

Featured Image
“ปิยบุตร” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาความผิด ม.112 สงสัยทำไมต้องรายงานตัวทุก 7 วัน ทั้งที่ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหา

 

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ สน.ดุสิต นายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนกรณีเป็นผู้ต้องหาในคดี มาตรา 112 จากการที่ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยาเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีพฤติกรรมของนายปิยบุตร กระทำในลักษณะอาจจะเข้าข่ายผิดมาตรา 112 ที่ สน.ดุสิต ไว้เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 64

 

นายปิยบุตร กล่าวว่า ข้อความที่โดนกล่าวโทษจากนายเทพ มนตรี ตนอ่านแล้วไม่มีข้อความผิดที่เข้าข่าย ม.112 คนที่มีเหตุผล สติสัมปชัญญะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าไม่เข้าข่ายความผิดหมิ่นประมาทสถาบัน แต่เมื่อพนักงานสอบสวนมีความเห็นแบบนี้ก็พร้อมจะสู้ต่อไป

 

ส่วนการที่โดนดำเนินคดีแบบนี้กระทบกับเสรีภาพหรือไม่นั้น ในปัจจุบัน ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมในสังคมอย่างสันติ ต้องมีการพูดคุยกันตนพยายามแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจที่จะพูดถึงสถาบัน ทุกฝ่ายควรมาคุยกัน และมีพื้นที่ในการแสดงความเห็นร่วมกัน แต่ตนกับถูกกล่าวโทษความสำคัญเรื่องตนจะโดนคดี หรือจำคุกเป็นเรื่องเล็ก แต่ตนต้องการให้ประชาชนสามารถพูดคุยกันได้แบบสาธารณะ ความปรารถนาดีต่อสถาบันแต่กลับโดนดำเนินคดี ม.112 กฎหมายนี้ห้ามหมิ่นประมาทหรืออาฆาตมาดร้าย ยืนยันตนจะขอพูดต่อไป

 

ส่วนนายเทพมนตรี มาร้องเอาผิดตนนั้น ตนไม่ว่าอะไรแต่เวลาจะร้องหรือแจ้งความเอาผิด ควรศึกษากฎหมายบ้าง อย่าจินตนาการและรู้สึกไปเอง อย่าแจ้งความเพื่อปิดปากผู้อื่นความใช้ความคิดและสมองมากกว่านี้ สังคมไทยต้องมีพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยเรื่องสถาบัน

 

นายปิยบุตร ยังกล่าวอีกว่า ตนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หวังดี และข้อเสนอของผมตลอด 10 ปีในฐานะนักวิชาการมีความชัดเจนมาโดยคลอดแต่พอมาอยู่การเมือง เอาประเด็นพวกนี้มาทำลายตน ทั้งที่พรรคอนาคตใหม่ก็ถูกยุบไปแล้ว ดังนั้นความคิดเห็นของตนที่แสดงออกแบบบริสุทธ์ใจ เป็นประโยชน์ต่อสังคม

 

ทั้งนี้ การที่รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้วางเงื่อนไขให้มารายงานตัวทุก 7 วันนั้น ตนเข้าใจดีว่าพนักงานสอบสวนโดนจับตาแต่ตนต้องเดินทางไปหาภรรยาที่ประเทศฝรั่งเศส แต่เพื่อความสบายใจ ตนจะออกนอกประเทศอย่างไรไม่ให้ ตำรวจโดนตำหนิ และไม่มีผลทางกฎหมายถ้าจะออกนอกประเทศ ต้องขอศึกษาในเรื่องกฎหมายเพิ่มเติม

 

ทางด้าน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า พนักงานสอบสวนเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาที่นายเทพมนตรีมาแจ้งความไว้ปีที่แล้ว จากการโพสต์ในโซเชียลมีเดีย มีข้อความที่อาจจะเป็นความผิดขั้นตอนสอบสวน ความผิดฐานหมิ่นประมาทสถาบันเราให้การปฎิเสธไป ส่วนรายละเอียดเราขอเวลาในการโต้แย้ง รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานในการต่อสู้คดี ซึ่งมีเวลา 30 วัน ส่วนนายปิยบุตรไม่โดนควบคุมตัวเพราะมาพบพรักงานสอบสวนด้วยตัวเอง และไม่มีการออกหมายจับ แต่ข้อสังเกตในฐานะทนายเรามาพบตามนัด พนักงานสอบสวน ไม่มีอำนาจควบคุมตัว

 

แต่ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้วางเงื่อนไขไว้ต้องมารายงานตัวทุก 7 วันเพื่อไม่ให้พนักงานสอบสวนลำบากใจ เราก็ทำตาม แต่ที่ผิดปกติเราเป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหา เราพร้อมร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เราไม่หนักใจ รวมทั้งได้ถามพนักงานสอบสวนว่า มีแรงกดดันหรือใบสั่งอะไรไหม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกไม่ต้องลำบากใจ จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคนเราแค่กังวลต้องมารายงานตัวทุก 7 วัน เป็นเคสที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube