fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ร้องจชต. ไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีเบียดบังเงิน 41 ล้าน

Featured Image
ร้อง จชต.ไม่ได้รับความเป็นธรรมหลังตกเป็นผู้ต้องหาเบียดบังเอาเงินจำนวน 41 ล้านบาทของมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาฯ

 

น.ส.ทัศนีย์ ลิ้มเจริญธัญญะผล พร้อมด้วยทนายความ นำเอกสารหลักฐานส่งมอบให้ตำรวจเวรอำนวยการ ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ สอบสวนข้อเท็จจริงเนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง

 

ในคดีที่ น.ส.ทัศนีย์ ตกเป็นจำเลยร่วมกับพวกอีก 7 คน ที่ถูกกล่าวหาโดยพระครูปลัดสุชาติ ฐานจาโร ประธานมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษว่า ร่วมกันเบียดบังเอาเงินจำนวน 41 ล้านบาท ของประธานมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยไป เป็นความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์หรือร่วมกันรับของโจร / ร่วมกันปลอม และใช้เอกสารสิทธิปลอม และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยเหตุเกิดเมื่อปี 2559 และคดีความอยู่ในชั้นฎีกาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ

 

 

น.ส.ทัศนีย์ เปิดเผยว่า คดีนี้ในชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง รับสอบสวนดำเนินคดี โดยไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองชี้แจงพยานหลักฐานข้อเท็จจริงอย่างเป็นธรรม จึงทำให้ตัวเองเสียโอกาสในการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาล จนกระทั่งศาลมีคำพิพากษาชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ให้จำคุกตัวเอง จำนวน 7 ปี / ส่วนจำเลยร่วมที่เหลือ รับคำพิพากษาแตกต่างกันไป และอยู่ในการสู้คดีชั้นฎีกา เช่นกัน ขณะเดียวกันยอมรับว่า ตั้งแต่การต่อสู้คดีในจุดเริ่มต้นของศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ ซึ่งส่วนตัวไม่รู้กฎหมาย หรือช่องทางในการร้องเรียนการทำงานของพนักงานสอบสวน จึงทำให้จำเป็นต้องใช้โอกาสนี้ขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง แม้ว่าคดีนี้ จะอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาลฎีกาของศาลฯ แล้วก็ตาม

 

ด้าน นายชณุนาท ณัฐภัทรกุล ทนายความ อ้างว่า การทำงานของพนักงานสอบสวน รวบรัดคดีและไม่ยอมรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงจากพยานให้รอบด้าน ทั้งที่คดีนี้นางสาวทัศนีย์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการเบียดเบียนทรัพย์ไปเป็นของตัวเอง โดยนางทัศนีย์ เป็นหนึ่งในคนที่รู้จักกับจำเลยร่วมของคดีนี้เท่านั้น จึงทำให้นางทัศนีย์ ไว้ใจปล่อยให้มีการโอนเงินบางส่วนเข้ามาในบัญชีชื่อของตัวเองจริง แต่อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิด

 

เบื้องต้น ตำรวจเวรอำนวยการ รับเรื่องราวร้องทุกข์ไว้สอบสวนดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อส่งต่อให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube