fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

วิกฤต “แจกเงินหมื่น” จุดจบ รัฐบาลเศรษฐา?

เงินดิจิทัลวอลเล็ต10,000บาท ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่อง ทำหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าพรรคเพื่อไทยจะทำจริงหรือไม่เพราะไม่ว่าจะทำหรือไม่ทำยังไงก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาไม่มากก็น้อย

 

 

 

 

 

 

 

 

ซึ่งขณะนี้ก็คงต้องมาจับตาพรรคเพื่อไทยต่อไปว่าเงินดิจิทัลจะเป็นนโยบายจริงหรือเป็นเพียงนโยบายหลอกกันแน่รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อ.ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา บอกกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นถึงประเด็นโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต10,000หมื่นบาทที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นจุดอ่อนและวิกฤตของพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นนโยบายที่เคยใช้หาเสียงไว้ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งหากในกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่ทำนั้น เศรษฐา ทวีสิน ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง

 

 

 

 

 

โดยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ทว่าสถานการณ์ในปัจจุบันกลับมีทีท่าว่าโครงการจะยืดเยื้อ เพราะทางพรรคเพื่อไทยไม่ตอบคำถามสังคมให้ชัดเจน อีกทั้งแต่ละบุคคลก็ตอบคำถามไปคนละทิศทาง รวมถึงพรรคเพื่อไทยๆไม่สนใจกฎหมายรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ชี้แจงแหล่งที่มาของงบประมาณแบบตรงไปตรงมา

 

 

 

 

โดยภาพรวมที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ยังทำงานผลักดันนโยบายไม่คืบหน้า เพราะด้วยระยะเวลา2-3เดือน นโยบายต่างๆควรจะคืบหน้าไปมากแล้วอย่างรถไฟฟ้า20บาทตลอดสายที่สัญญาว่าจะทำทุกสาย แต่ล่าสุดกลับทำเพียงแค่สายเดียว ก็จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าหรือนี่จะเป็นการตบตาประชาชน นอกจากนี้ถึงแม้ว่านายเศรษฐา จะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

 

 

 

 

แต่นั่นก็คือปฏิทินเดิมที่เคยมีมาสมัยรัฐบาลประยุทธ์ อีกทั้งทางตัวนายกฯเศรษฐา ก็ยังสื่อสารผิดพลาด สร้างความขัดแย้งกับต่างประเทศที่เคยเป็นความขัดแย้งเดิม ดังนั้นเรื่องนี้มองว่าล้มเหลวเลยทีเดียวหากเทียบกับรัฐบาลประยุทธ์ ขณะที่ล่าสุด วันที่ 19 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า เป็นห่วงเรื่องกรอบเวลาดีเดย์โครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายกรัฐ มนตรีเศรษฐา

 

 

วางโจทย์ไว้ที่วันที่ 1 ก.พ. 67 อาจไม่ทัน อย่างไรก็ตาม น่าจะใช้ทันไตรมาสแรกปี 67 โดยข้อติดขัดที่อาจทำให้โครงการล่าช้าออกไป หลักๆ มาจาก 3 ประเด็น 1.การทดสอบระบบแอปพลิเคชันดิจิทัลวอลเล็ต 2.แหล่งเงินงบประมาณ และ3การกำหนดกรอบผู้ที่จะมีสิทธิได้รับเงิน หลังจากก่อนหน้านี้มีหลายฝ่ายเสนอให้รัฐบาลแจกเงินดิจิทัลนี้แบบมุ่งเป้าและคัดผู้มีรายได้สูงหรือคนรวยออกด้วย
พร้อมกันนั้น นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) บอกว่าไม่ขัดก้าวไกลจ่อยื่นซักฟอกหลัง พ.ร.บ.งบ67 ผ่าน เพราะการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นสิทธิของพรรคฝ่ายค้านที่จะยื่นตามระบอบรัฐสภา ซึ่งยังไม่เห็นว่าเป็นปัญหาอะไร ไม่ขัดข้องถ้าจะยื่นและจะยื่นเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ความเหมาะสมของพรรคฝ่ายค้าน เพราะคิดว่าการทำงานของรัฐบาลในช่วง 1  เดือนนั้นมากกว่าหลายๆ รัฐบาลที่ผ่านมา
ส่วนด้านฝ่ายค้าน ต่างก็ออกมาคัดค้านกันอย่างต่อเนื่อง โดย น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกก้าวไกลบอกว่าเข้าใจ อดิศร ต้องปกป้องรัฐบาลตามหน้าที่ ยืนยันไทม์ไลน์ฝ่ายค้านซักฟอกอยู่ในกรอบเดียวกับรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งพรรคพร้อมแก้ไขข้อบกพร่อง อีกทั้งด้านนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกลบอกด้วยว่า นโยบายนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ การบริหารงบประมาณแผ่นดิน ก็ต้องฟังเสียงรอบด้าน
จึงคิดว่า ควรชี้แจงคนที่ยังไม่เข้าใจหรือยังไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุผลที่ได้คิดโครงการไว้แล้ว รวมทั้งที่มาของเงินว่าเป็นอย่างไร น่าจะเป็นผลดีมากกว่าปลุกมวลชนแบ่งข้าง ซึ่งมองว่า นโยบายนี้เป็นจุดตายของรัฐบาล คือหากทำได้ดีก็สามารถอยู่ต่อได้ในระยะยาว แต่หากทำไม่ดี ไม่ชัดเจน รัฐบาลก็อาจจะมีอายุสั้นลง
นอกจากนี้ ขณะเดียวกัน นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา ก็ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
ตรวจสอบนโยบายแจกเงินดิจิทัล เข้าข่ายละเมิดกฎหมายหรือไม่ หวั่นสร้างความเสียหายต่อวินัยการเงินคลังอีกด้วยอย่างไรก็ตามโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต10,000บาทนั้น ก็มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องรีบเร่งทำอะไรเป็นรูปเป็นร่างสักอย่างแล้วหรือไม่หลังส่อแววยืดเยื้อไม่ชัดเจนเสียที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube