fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

เปิดฉากการเมืองปีเสือ

นายกฯ ประเดิมประชุมครม.ปี 65 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นซ์จากบ้านพัก หลัง ศบค.แจ้งแนวทางปฎิบัติหลังเทศกาลปีใหม่ WFH ยกระดับป้องกันโควิด 19

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)นัดแรกของปี 2565ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากบ้านพัก ภายในกรมทราบราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หรือ ร.1 รอ. ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามมาตรการ Work from home ตามมาตรการ ศบค. ที่ได้ออกหนังสือด่วน แจ้งแนวปฏิบัติของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐภายหลังเทศกาลปีใหม่เพื่อยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมเชื้อโควิด-19ในสถานที่ราชการ ให้ข้าราชการทำงานที่บ้านพักตั้งแต่วันที่ 1-14 ม.ค.2565

 

โดยการประชุมวันนี้ กระทรวงการคลังเสนอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบการ SMEs และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) และการดําเนินการป้องกัน ควบคุม แก้ไขปัญหา และบรรเทาผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายหลัง เทศกาลปีใหม่ซึ่งจะมีการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 7 ม.ค.นี้ พร้อมจะมีการเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกําหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 ฉบับที่ และ การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจําปีงบประมาณ 2565

 

ศบค.พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นเป็น 20.92% รวม 2,338 ราย กระจาย 55 จังหวัด ขณะ เดลต้า 78.91

 

แพทย์หญิงสุมณี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อตามสายพันธุ์การระบาดในประเทศไทยซึ่งการรายงานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่มีการสุ่มตรวจสายพันธุ์เมื่อวันที่ 1 พ.ย.64-4 ม.ค.65 พบว่าเป็นสายพันธุ์เดลต้าอยู่ที่ 78.91%และเป็นสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นเป็น 20.92% ซึ่งหากเป็นผู้ป่วยจะอยู่ที่ 2,338 ราย ขณะนี้สายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่กระจายไปแล้ว 55 จังหวัด

โดยจังหวัดที่มีการติดเชื้อและมีการแพร่ระบาดในจังหวัดพบที่กรุงเทพมหานคร, กาฬสินธุ์, ชลบุรี, ร้อยเอ็ด, ภูเก็ต และสมุทรปราการ แต่จากรายงานที่มีผู้ติดเชื้อโอไมครอน 2,338 ราย 50% เป็นผู้ที่ติดเชื้อซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศ และอีก50% ติดจากผู้ที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นวงที่ 2 โดยคนไข้ที่เข้ามาในระบบการรักษาส่วนใหญ่ยังคงเป็นสายพันธุ์เดลต้า

 

กกต.กำหนดวันเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ 30 ม.ค. เปิดรับสมัคร 6-10 มค.นี้ กำชับเตรียมความพร้อมยึดมาตรการป้องกันโควิด 19

 

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 9 หลักสี่-จตุจักร แทนตำแหน่งที่ว่างในวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.65 เปิดรับสมัครวันที่ 6-10 ม.ค.65 ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครเขตเลือกตั้งที่ 9 หลักสี่-จตุจักร แทนตำแหน่งที่ว่าง 2564 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.64 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ60 มาตรา 105 ประกอบมาตรา 102 กกต.ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงนั้น เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 60

 

ทั้งนี้ ในการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งดังกล่าว ทางสำนักงาน กกต.ได้มีมาตรการเพิ่มเติมภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ตามพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 และประกาศโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพ.ร.บ.โรคติดต่อพ.ศ. 2558 ของกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนที่เกี่ยวกับการกำหนดพื้นที่ต่อคน การเว้นระยะห่างระหว่างคน และการกำหนดจุดตรวจคัดกรองพร้อมแอลกอฮอล์เจลเช่น สถานที่และการรับสมัคร การกำหนดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้ง การอบรมเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง การรับมอบวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้งการออกเสียงลงคะแนนในวันเลือกตั้ง การนับคะแนน และการส่งหีบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง เป็นต้น ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวข้างต้นไว้พร้อมแล้ว

 

กกต.-เขตหลักสี่ ตรวจความพร้อมก่อนรับสมัครเลือกตั้งซ่อมพรุ่งนี้ (6 ม.ค.) บูรณาการตำรวจรักษาความปลอดภัย ป้องปรามการกระทำผิดตลอดการเลือกตั้ง ขณะยังไม่พบข้อร้องเรียน

 

นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ในฐานะคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ยืนยันความพร้อมในการเปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แทนตำแหน่งที่ว่าง ในเขตการเลือกตั้งที่ 9 กรุงเทพมหานคร เขตหลักสี่ และจตุจักร ยกเว้นแขวงจตุจักร และจอมพลว่า มีความพร้อมแล้ว ทั้งสถานที่ และการบริหารจัดการในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งการเข้า-ออก ของผู้สมัคร ผู้ติดตาม และกรรมการบริหารพรรคการเมือง โดยจะอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้สสมัครเพียง 1 คน เข้ามาในห้องรับสมัครเท่านั้น ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง และกองเชียร์ จะให้รอด้านนอกอาคาร

 

ขณะนายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร หรือ ผอ.กกต.กทม. ระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และสำนักงานเขตหลักสี่ จะบริหารงานการรับสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ร่วมกัน โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ ที่มีสิทธิเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ราว 169,000 คน ได้รับทราบ และการเลือกตั้งซ่อมในกรุงเทพฯ ครั้งนี้เป็นสนามใหญ่ จึงจะต้องบริหารงานร่วมกัน

 

ขณะเดียวกัน ในการเปิดรับสมัครเลือกตั้งวันพรุ่งนี้ (6 ม.ค.) ได้มีการประสานบูรณาการเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบมารักษาความปลอดภัยระหว่างการเปิดรับสมัคร พร้อมยังมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วของสำนักงาน กกต. ที่ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะคอยป้องปรามไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมาย ของผู้สมัคร และทีมหาเสียง ที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในระหว่างที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันวสูงด้วย

 

ส่วนกรณีที่มีพรรคการเมืองร้องเรียนถึงการซื้อสิทธิขายเสียงในพื้นที่หัวละหลักพันบาทนั้น สำนักงาน กกต. มีผู้ตรวจการเลือกตั้ง และเครือข่าย ในการลงพื้นที่ตรวจสอบชุมชนทุกชุมชน ในพื้นที่เขตหลักสี่ และจตุจักร ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบข้อร้องเรียน ข้อเท็จจริงแต่อย่างใด

 

สุดท้ายนี้ยังต้องจับตาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะตัดสินใจอย่างไรเนื่องจากปัญหาที่ถาโถมเข้ามาแล้วยังไม่มีการแก้ไขใดๆ ทั้งเรื่องโควิด19 เศรษฐกิจ และการคะแนนนิยมที่ลดน้อยลงไปทุกที่ สถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube