กมธ.มั่นคงแห่งรัฐ เตรียมถกพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา 16 กพ.นี้ เร่งตรวจสอบนำเข้ายางเถื่อน
นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐาะโฆษกคณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ แถลงข่าวสรุปผลการประชุมคณะ กมธ.เกี่ยวกับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำยางพาราเข้ามาในประเทศไทย บริเวณจุดผ่านแดนชั่วคราวด่านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรได้จัดตั้งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อเข้าตรวจสอบ และดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำผิด ทั้งนี้ ยังพบข้อจำกัด ด้านขีดความสามารถในการตรวจสอบ อีกทั้งข้อจำกัดด้านข้อกฎหมายที่ได้ห้าม “การนำเข้า” สินค้า – ผลผลิตจากยางทุกรูปแบบ แต่เปิดช่องของ “การนำผ่านแดน” ที่อนุญาตให้ยางแผ่น ยางแท่งสามารถนำผ่านแดนสู่ประเทศที่สามได้ จึงเป็นช่องทางให้เกิดปัญหานำเข้ายางเถื่อน หรือยางไร้คุณภาพที่ส่งผล กระทบต่อเกษตรกรและราคายาง รวมถึงการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย คณะ กมธ.ได้มีข้อเสนอแนะ คือ
1. สถานะจุดผ่านแดนชั่วคราวด่านพระเจดีย์สามองค์ ที่เป็นจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวแต่ปล่อยให้มีการดำเนินการด้านการค้า การผ่านแดนของสินค้าจะเป็นการดำเนินการที่ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่
2. การตรวจสอบ ควบคุมระหว่างการขนส่งผ่านแดน ไม่สามารถยืนยันได้ว่าสินค้าที่อยู่ในตู้สินค้านั้นตรงกับเอกสารหรือไม่ รวมถึงไม่มีมาตรการในการกำกับให้รถบรรทุกอยู่ในเส้นทางที่กำหนด
3. การมีส่วนร่วมในการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังมิได้มีความชัดเจนหรือการขยายผลอย่างเป็นรูปธรรม
ภายหลังจากการพิจารณาเรื่องดังกล่าว คณะ กมธ. ได้มีมติที่จะนำวาระดังกล่าว เข้าพิจารณาเพิ่มเติมอีกครั้ง ในวันที่ 15 ก.พ. 67 เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล พร้อมจะจัดทำหนังสือติดตามผลถึงกรมศุลกากร เพื่อตามผลจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ต้องสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรมีส่วนร่วมในการกระทำผิดลักลอบนำเข้ายางเถื่อน
นอกจากนี้ ยังได้ประชุมและปรึกษาหารือในเรื่องการรับทราบถึงปัญหาด้านมาตรการภาษีเงินได้ของแรงงานเมียนมาในประเทศไทย ซึ่งประเมินว่าจะส่งผลกระทบต่อการสูญเสียแรงงานเมียนมาในระบบแรงงานไทย จำนวนกว่า 2,000,000 คน ที่ประชุมมีมติส่งเรื่องให้อนุ กมธ.พิจารณาเพื่อศึกษาปัญหา ผลกระทบและจัดทำข้อเสนอแนะต่อไป
อย่างไรก็ตาม กมธ. มีมตินัดประชุมในวันศุกร์ที่ 16 ก.พ.67 เวลา 09.30 น. เพื่อพิจารณาประเด็นพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งคณะกมธ.เล็งเห็นถึงความสำคัญต่อประเด็นความมั่นคงของประเทศ
อีกทั้ง ที่ประชุมมีมตินำวาระการพิจารณายกร่างพระราชบัญญัติคำสั่งเรียกหรือการเรียกของ คณะ กมธ.ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์ต่อไป โดยมีมติยืนตามร่างที่นายปิยรัฐ เป็นผู้เสนอขึ้นมาเป็นหลักในการพิจารณาต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews