สว.จี้รัฐบาลแก้ปัญหายาเสพติดระบาดหนัก-ขึ้นเงินเดือนช่วยเหลือค่าครองชีพให้ข้าราชการบำนาญทั้งประเทศ พร้อมขอนายกฯ ตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ขึ้นมาตรวจสอบป้องกันการทุจริตในภาครัฐให้ครอบคลุมทุกมิติ
การประชุมวุฒิสภาวันนี้ ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งนายออน กาจกระโทก สว. ได้หารือถึงสภาวะปัจจุบันประเทศไทยและทั่วโลกประสบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ค่าครองชีพ สูงขึ้น สินค้าอุปโภค บริโภค ขึ้นราคาทุกอย่าง เป็นเหตุให้รัฐบาลมีมาตรการหลายอย่าง เช่น ปรับค่าแรงขั้นต่ำให้ผู้ใช้แรงงาน หรือช่วยเหลือเกษตรกร สาขาอาชีพต่างๆ และครม.มีมติปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ ให้มีผล พ.ค. 2567 แต่ไม่ทราบว่ารัฐบาลมองเห็นกลุ่มข้าราชการบำนาญที่เคยทำหน้าที่เหน็ดเหนื่อยเสียสละ ช่วยประชาชนหรือไม่ เพราะหลังเกษียณอายุราชการแล้ว แม้จะมีเงินเดือนรัฐจัดให้ แต่สภาพความจริงมีเพียงร้อยละ 20 ที่อยู่ได้อย่างมีใช้หรือใช้พอพียง แต่อีกร้อยละ80 ยังต้องลำบากแต่ละเดือนมีเงินไม่พอใช้เลี้ยงชีพและครอบครัว บางคนดูถูกว่าเป็นช้างป่วยเป็นภาระสังคม หมดประโยชน์ไร้ค่า จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลขึ้นเงินเดือนช่วยเหลือค่าครองชีพให้ข้าราชการบำนาญทั้งประเทศ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กลุ่มคนเหล่านี้ด้วย
ขณะนางเพ็ญพักตร์ ศรีทอง สว.หารือเรื่องปัญหายาเสพติดที่ระบาดหนักในพื้นที่หมู่บ้าน ในอําเภอนาจะหลวย อุบลราชธานี จึงอยากให้ผู้รับผิดชอบปราบปรามยาเสพติดในเด็กและวัยรุ่น ขอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสั่งการปราบปรามเร่งด้วย เพราะผู้ปกครองแจ้งข้อมูลไปแล้วยังเงียบและระบาดมากขึ้น ซึ่งเมื่อดูจากข่าวปัจจุบัน เด็กวัยรุ่นอายุ 12-13 ปีก็เป็นอาชญกรแล้ว แม้แต่กัญชายังมีจำหน่ายในโรงเรียน ซึ่งหากไม่จัดการจะเป็นภัยต่ออนาคต ต่อเด็กและความปลอดภัยของผู้อื่น
ด้านพล.อ.ดนัย มีชูเวท สมาชิกวุฒิสภา ได้หารือถึงการเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องการลักลอบสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศ และตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในภาครัฐ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาครบทุกมิติ เนื่องปัจจุบันไทยประสบปัญหาเรื่องการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศมาเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง เช่น แรงงานผิดกฎหมาย สินค้าทางการเกษตร และสิ่งเทียมอาวุธปืน ก่อให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ โดยพบผู้ร่วมกระทำผิดทั้งภาครัฐและเอกชน
ขณะที่หน่วยงานราชการอยู่ระหว่างการแก้ปัญหาดังกล่าว แต่การแก้ปัญหาเป็นไปตามกรอบและอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน จึงมีอุปสรรคความล่าช้า ทั้งการประสานงานในการดำเนินคดี และกำหนดมาตรการให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดที่ติดชายแดนควบคุมกำกับดูแลทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและป้องกันการทุจริตลักลอบการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายเข้าประเทศอย่างเคร่งครัด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews