fbpx
Home
|
อาชญากรรม

สองพ่อลูกนายทุนหมูเถื่อนได้ประกันตัว แฉจนท.รัฐมีเอี่ยว

Featured Image
สองพ่อลูกนายทุนหมูเถื่อนได้ประกันตัว หลังให้การเป็นประโยชน์ รับ จ่ายค่าเคลียร์ของให้ชิปปิ้งเอกชน พร้อมแฉ เจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยว

 

 

 

 

 

วันนี้ (15 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ ว่า สำหรับการสอบปากคำ นายวิรัช กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท WEALTY & HEALTHY FOODS และบริษัท THE GOOD SHOP พร้อมด้วย นายธนกฤต (บุตรชาย) 2 ผู้ต้องหาที่ว่าจ้างชิปปิ้งเอกชนให้นำเข้าหมูเถื่อนเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งคู่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อาทิ ให้การว่าตนเองนั้นมีการจ่ายเงินให้กับบริษัทชิปปิ้งเอกชน 2 แห่ง คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กันตา ไทยโฟรเซ่นฟิช จำนวน 23 ตู้

 

 

 

 

และบริษัท มายเฮ้าส์ เทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 10 ตู้ รวมทั้งหมด 33 ตู้คอนเทเนอร์ ซึ่งคำให้การมีความสอดรับกับคำให้การของกลุ่มชิปปิ้งเอกชนที่ดีเอสไอได้จับกุมไปแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ บริษัทชิปปิ้งเอกชนได้มีการซักทอดว่าเนื้อหมูแช่แข็งที่นำเข้ามานั้น นิติบุคคลใดเป็นผู้สั่งให้นำเข้า ซึ่งหนึ่งในกลุ่มนายทุนก็คือสองพ่อลูกคู่นี้ ขณะที่คำให้การของสองพ่อลูก ระบุว่า มีเงินส่วนหนึ่งที่ได้จ่ายให้กับ 2 บริษัทชิปปิ้งเอกชน โดยเป็นเงินที่เรียกว่าค่าเคลียร์ของ ซึ่งยอดเงินนั้น บริษัทชิปปิ้งเอกชนเรียกเงินตกตู้ละ 30,000 บาท และชิปปิ้งเอกชนจะรับหน้าที่ในการจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ

 

 

 

ทั้งนี้ เมื่อทั้งคู่ให้ความร่วมมือให้การเป็นอย่างดี จึงเป็นสาเหตุให้พิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว อีกทั้งที่ผ่านมาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี เพราะมีการประสานขอเข้ามอบตัวกับดีเอสไออย่างต่อเนื่อง แต่ติดปัญหาเรื่องการว่าจ้างทนายความ จึงลงตัววันที่ 14 พ.ย. เดินทางกลับจากเวียดนามมายังประเทศไทย ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหายอมให้การเปิดเผยข้อมูลสำคัญทั้งหมด อาจเพราะรู้ดีว่าข้อมูลต่างๆนี้จะสามารถขยายผลไปสู่การเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องและตัวเองอาจจะได้รับการพิจารณาถูกกันไว้เป็นพยานได้

 

 

 

คณะพนักงานสอบสวน เผยถึงกระบวนการทำงานของบริษัทชิปปิ้งเอกชน ว่า ชิปปิ้งจะทำหน้าที่สั่งสินค้าเข้ามาเพื่อออกของ แต่การสั่งของนี้จะเป็นการสั่งสินค้าตามออเดอร์ของพ่อค้าคนกลางหรือกลุ่มนายทุน

 

 

 

 

เช่น สองพ่อลูกคู่นี้ และเมื่อได้รับสินค้ามาแล้วก็จะกระจายส่งไปยังห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ โดยกรณีของผู้ต้องหา ทราบว่าได้กระจายเนื้อหมูส่งไปยังผู้สั่งซื้อหลายสิบราย ซึ่งมีลักษณะเป็นศูนย์กระจายสินค้า ไม่ใช่เขียงหมูตามตลาดนัดทั่วไป

 

 

 

 

เมื่อถามว่ากรณีของสองพ่อลูกคล้ายถูกขูดรีดจากเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ คณะพนักงานสอบสวน อธิบายว่า เมื่อสินค้าจะมาถึงประเทศไทย ชิปปิ้งเอกชนก็ต้องนำเงินที่ได้รับจากนายทุน (สองพ่อลูก) ไปเคลียร์กับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากถามว่าไม่เคลียร์ได้หรือไม่ ก็ทำได้ แต่สินค้าจะไม่ได้ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง อีกทั้งค่าใช้จ่ายที่เช่าวางตู้คอนเทเนอร์นั้น

 

 

 

ผู้ต้องหาให้การว่ารายจ่ายตกวันละ 3,000 บาท แต่ถ้าผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ จะกลายเป็น 7,000 บาท ทำให้ผู้ต้องหายอมจำนนจ่ายค่าเคลียร์ของดังกล่าวเพื่อให้จบ และสินค้าจะได้นำส่งไปตามออเดอร์ต่างๆได้ ไม่อย่างนั้นสินค้าจะเน่าเสีย หรือแม้กระทั่งเหตุผลที่ว่าเป็นตู้คอนเทเนอร์มีแอร์ แต่ถ้าผ่านวันเวลาไป คุณภาพของเนื้อหมูก็จะลดลง ถึงแม้จะอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็นก็มีการคายน้ำในเนื้อหมูได้ ทำให้ยิ่งปล่อยไว้นานวัน ก็จะทำให้มีแต่เสียกับเสีย

 

 

 

 

คณะพนักงานสอบสวน เผยอีกว่า สำหรับเนื้อสุกรแช่แข็งที่ผู้ต้องหานำเข้าและได้มีการแจ้งว่าเป็นการนำเข้าเพื่อแปรรูป ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาจะต้องดำเนินการภายในสามวัน เพราะมันเกี่ยวข้องกับระเบียบกรมปศุสัตว์ ดังนั้น แม้ว่าจะมีการนำเข้าเนื้อหมูอย่างถูกต้อง แต่ถ้าหากพ้นกำหนดวันก็จะกลายเป็นหมูเถื่อนอยู่ดี ทำให้ทุกกระบวนการ

 

 

 

ผู้ต้องหาจะต้องรีบดำเนินการทั้งหมด นอกจากนี้ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะมาประกอบกิจการสั่งนำเข้าเนื้อหมูแช่แข็ง ยังเคยเป็นเกษตรกรเลี้ยงหมูมาก่อนด้วย แต่เนื่องด้วยสาเหตุกฎระเบียบที่ค่อนข้างหลายขั้นตอนของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง จึงทำให้ไปไม่รอด จึงต้องผันตัวมาเป็นนายทุนเอง

 

 

 

คณะพนักงานสอบสวน เผยถึงการทำงานประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ว่า ดีเอสไอได้มีการทำงานร่วมกันกับ ปปง.มาอย่างต่อเนื่องและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเสมอ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินใดของสองพ่อลูกไว้ตรวจสอบ เพราะขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนของการสอบสวนทางคดีและขยายผล.

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube