fbpx
Home
|
ข่าว

“วันนอร์”เยือนซาอุฯบอกผลตอบรับดี เล็งดึง”ไอดีบี”หนุนSMEs

Featured Image

 

 

 

“วันนอร์” เยือนซาอุฯ บอกผลตอบรับดี เล็งดึง”ไอดีบี” หนุนเอสเอ็มอีไทย จี้หาทางช่วยเหลือคนไทยไม่มีเงินจ่ายค่าใบถิ่นที่อยู่

 

 

 

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในการเยือนราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย อย่างเป็นทางการว่า วันที่ 19 ม.ค. นายวันมูหะมัดนอร์ ได้พบปะหารือกับ ดร.มาเนอร์ มูธาร์ รองประธานธนาคารอิสลามเพื่อการพัฒนา(ไอดีบี) และได้เยี่ยมชุมชนชาวมาลายูปัตตานี ในนครเมกกะ โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการพูดคุยกับทางธนาคารอิสลามเพื่อการพัฒนา ซึ่งเป็นธนาคารระดับโลกของมุลลิมและประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยมีประเทศอื่นร่วมถือหุ้นกว่า 67 ประเทศ ธนาคารแหน่งนี้ทำประโยชน์ให้กับประเทศไทยหลายด้าน โดยเฉพราะเรื่องทุนการศึกษา แก่นักศึกษาไทยในสาขาอาชีพที่จะนำความรู้มาพัฒนาประเทศ เช่นแพทย์ วิศวะ และจากที่ตนประธานกองทุนไอดีบีเพื่อพัฒนาการศึกษาในไทย มีข้อมูลว่าที่ผ่านมามีนักศึกษาได้รับทุนการศึกษาในสาขาอาชีพเหล่านี้จบการศึกษาไปแล้วไม่น้อยกว่า 600 คน บางคนเป็นผอ.โรงพยาบาลต่างๆไม่น้อยกว่า 10 โรงพยาบาล จากที่พูดคุยตนได้ขอให้ไอดีบี สนับสนุนทุนเพิ่ม เขาก็รับปากจะไปดูและอยากให้เขาเดินทางไปไทยเพื่อให้พูดคุยกับ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อดูแลเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพในการผลิตอาหารฮาลาล หรือสหกรณ์อิสลาม ถ้าได้รับการสนับสนุนจากไอดีบีการเติบโตก็จะดีขึ้น หวังว่าเขาจะส่งทีมไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย และสถานศึกษาต่างๆ ในเร็วๆ นี้ ถือว่าการหารือครั้งนี้เป็นประโยชน์มาก

 

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวอีกว่า สำหรับการพบปะชุมรมชาวมลายูปัตตานี ในนครเมกกะนั้น ชุมชนดังกล่าวมีมานานกว่า 70-80 ปี รวบรวมคนและทรัพยากรช่วยเหลือคนไทยด้วยกันในซาอุฯ ปัญหาที่คนไทยในซาอุฯ พบเจออยู่ในตอนนี้คือเขาอยากให้รัฐบาลช่วยเกี่ยวกับใบถิ่นที่อยู่ หรือใบอนุญาติให้พำนัก ที่ทำให้สามารถทำงานได้ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่ปัจจุบันรัฐบาลซาอุฯปรับนโยบายเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ทำให้คนที่อยากอยู่ต่อต้องเสียค่าใช้จ่ายปีละ 7-8 หมื่นบาท และยังต้องจ่ายในส่วนของครอบครัวที่ไม่ได้ทำงานด้วย บางส่วนเป็นแม่ม่าย ที่ต้องทำงานเล็กๆน้อยๆ ในการเลี้ยงดูลูก ทำให้รายได้ไม่เพียงพอก็อยากกลับประเทศไทย

 

แต่ต้องเสียค่าปรับที่ค้างอยู่ก่อนจึงไม่สามารถเดินทางกลับได้ ตนได้พูดกับเอกอักคราชทูตไทยประจำซาอุดิอาระเบีย ให้ประสานรัฐบาลซาอุฯนิรโทษกรรมความผิดในส่วนนี้เพื่อให้คนเหล่านี้ได้โอกาสเดินทางกลับไทยโดยไม่ต้องเสียค่าปรับ แล้วให้คนกลุ่มนี้เดินทางกลับประเทศไทยหลังการประกอบพิธีอัจด้วยการไปกับเครื่องบินที่เดินทางกลับจากนครเมกกะหลังส่งผู้แสวงบุญแล้วในเที่ยวบินที่ว่าง จะได้ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง แต่ถ้าต้องหาทุนมาจ่ายเป็นค่าปรับที่ค้างอยู่จากการคำนวนอยู่ที่ประมาณ 32 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่ไม่มากสำหรับการช่วยเหลือคนไทยที่ลำบากในต่างแดน เหมือนกรณีช่วยเหลือคนไทยที่เจอเหตุฉุกเฉินจนจ้องอพยพ ตนหวังให้คนไทยเหล่านั้นได้พาลูกหลานกลับบ้านเกินเมืองนอน เมื่อถามว่าตัวเลข 32 ล้านบาท รัฐบาลควรทุ่มหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ตอบว่า ตนมองว่าไม่มาก เช่นกรณีเกิดจรจลในต่างประเทศคนไทยเดือดร้อนเราก็ต้องจ่ายเงิน เราจำเป็นต้องทำเพื่อดูแลคนไทยตามภาระหน้าที่

 

ทั้งนี้ การที่คณะรัฐสภาไทยเดินทางมาซาอุดิอาระเบีย วันที่ 16-19 ม.ค. ถือว่าได้ผลเป็นอย่างดียิ่งในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง เพราะหลังจากฟื้นความสัมพันธ์แล้ว ทางนายกฯและฝ่ายเศรษฐกิจต่างเดินทางมามาเยือนซาอุฯ ได้รับการต้อบรับอย่างดี และการที่รัฐสภามาเยือน ตามคำเชิญของสภาที่ปรึกษาราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ที่พระมหากษัตริย์ทรงเลือกมา ก็จะยิ่งช่วยให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น อีกทั้งรัฐบาลทั้งสองมีการตกลงตั้งกลุ่มมิตรภาพซาอุฯ-ไทย และ ไทย-ซาอุฯ แลกเปลี่ยนการเยือนซึ่งกันและกันยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ดียิ่งขึ้น การที่ตนได้เจอรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงกิจการศาสนาอิสลาม การเผยแผ่ และการชี้แนะ ก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน เขาพร้อมอำนวยความสะดวกคนไทยที่มาทำพิธีฮัจให้ได้รับความสะดวกมากกว่าเดิม และพร้อมมอบทุนกันนักศึกษาไทยด้วย ถือว่าการเดินทางมาครั้งนี้สำเร็จเป็นอย่างดี

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube