fbpx
Home
|
ข่าว

ผู้แทนการค้า คุยทูตกลุ่มเบเนลักซ์ ผลักดัน FTA ไทย-อียู

Featured Image
ผู้แทนการค้า คุยทูตกลุ่มเบเนลักซ์ หวังผลักดัน FTA ไทย-อียู ให้สำเร็จภายใน 2 ปี

 

 

 

 

 

นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า ตนได้พบหารือกับเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ประจำประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยนางซีบีย์ เดอ การ์ตีเย ดีฟว์ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียม นายแพทริก เฮมเมอร์ เอกอัครราชทูตราชรัฐลักเซมเบิร์ก และนายเร็มโก โยฮันเนิส ฟัน ไวน์คาร์เดิน เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์

 

 

 

 

เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบายแนวทางยกระดับความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ภายหลังตั้งรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะเรื่องการจัดทำความตกลง FTA ไทย-สหภาพยุโรป ซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทย รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น (ไม่รวมอาเซียน) โดยการค้ามีมูลค่า 41,038.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 6.95% ของไทยในตลาดโลก

 

 

 

 

โดยผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า การเจรจาความตกลง FTA ไทย-สหภาพยุโรป หยุดชะงักมาตั้งแต่ปี 2557 และเมื่อเดือน มี.ค. 2566 ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันเปิดเจรจา FTA อย่างเป็นทางการ โดยวางแผนจะจัดการประชุมปีละ 3 ครั้ง ตั้งเป้าเพื่อหาข้อสรุปการเจรจาภายใน 2 ปี โดยเริ่มเจรจารอบแรก ณ กรุงบรัสเซลล์ เมื่อ18 – 22 ก.ย. 2566

 

 

 

และไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจารอบต่อไปใน ม.ค. 2567 โดยการเจรจารอบแรกเป็นไปด้วยดี และเราหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนการเจรจา FTA เพื่อให้สามารถสรุปผลและบังคับใช้ได้โดยเร็ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป รวมถึงประเทศเบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก ด้วย

 

 

 

 

โดยเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า รัฐบาลมีแนวทางสร้างรายได้ โดยใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุกเพื่อเปิดประตูการค้าสู่ตลาดใหม่ ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ กลุ่มสหภาพยุโรป และยังมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมสีเขียว และสานต่อนโยบาย Carbon Neutrality

 

 

 

เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย EU Green Deal ของสหภาพยุโรป ที่ต้องการสร้างสังคมที่เป็นธรรมบนพื้นฐานเศรษฐกิจที่ทันสมัย และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเขาตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 55% ภายในปี 2030 และลดลงเป็นศูนย์ภายในปี 2050

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube