fbpx
Home
|
ข่าว

ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

Featured Image
ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับ กสทช. ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

 

วันนี้ (20 ต.ค. 66) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมนาย สุธีระ พึ่งธรรม ผอ.สำนักกิจการภูมิภาค, นายจาตุรนต์ โชคสวัสดิ์ ผอ.สำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม, ตัวแทนบริษัท บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงผลการจับกุมสถานีวิทยุคมนาคมที่ไม่ได้รับอนุญาต (sim box) ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีการลักลอบใช้เป็นช่องทางการสื่อสารที่สามารถเข้าถึงประชาชนบุคคลทั่วไปภายในประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอาชญากรรมค้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยในปัจจุบันตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

 

ซึ่งชุดปฏิบัติการร่วมตำรวจและกสทช. ได้มีการลงพื้นที่หาข่าวจนนำมาสู่การปฏิบัติการตรวจค้น 5 จุด โดยสามารถยึดอุปกรณ์ simbox จำนวน 10 เครื่อง ซิมการ์ดจำนวน 318 อัน และ เราเตอร์อินเทอร์เน็ตสำหรับควบคุมระยะไกล 5 เครื่อง

 

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดฐาน “มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมและตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบนุญาต” ตามมาตรา และ 11 แห่ง พรบ.วิทยุคมนาคมฯ มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งปรับทั้งจำ และความผิดฐาน “ประกอบกิจการโทรคมนาคมซึ่งต้องได้รับ ใบอนุญาตแบบที่หนึ่งโดยไม่ได้อนุญาต” ตามมาตรา 67 (1) แห่งพรบ.ว่าด้วยการประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

 

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กสทช. ได้มีการบูรณาการความร่วมมือในการเดินหน้าปราบปรามสถานีโทรคมนาคมผิดกฎหมาย ควบคู่ไปกับการจัดระเบียบเสาสัญณาณไม่ให้แพร่สัญญาณ โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กวดขันจับกุมผู้ขายและผู้เป็นธุระจัดหา ซิมผี บัญชีม้า เพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ให้ทำงานได้สะดวกเหมือนเคย

ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก ผู้ประกอบการผู้รับใบอนุญาตเป็นอย่างดีพร้อมทั้งมีการหารือในการปรับปรุงระเบียบและกฎหมายที่ เกี่ยวข้อง เพื่อตีกรอบการใช้เทคโนโลยีให้เป็นไปตามที่ภาครัฐกำหนด สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชน

 

ทั้งนี้ได้ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนให้มีความระมัดระวังการใช้การใช้งานเทคโนโลยีเพราะปัจจุบันแก๊งมิจฉาชีพมีการพัฒนารูปแบบการหลอกลวงอยู่ตลอดเวลา มีการออกอุบายใหม่ๆ ที่เน้นสร้างความน่าชื่อถือ ทำให้เหยื่อตกใจตื่นตระหนก ตกหลุมพรางของแก๊งมิจฉาชีพ ขอให้ประชาชนตั้งสติ อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวโดยเด็ดขาด

 

นอกจากนี้ยังพบว่าแก๊งมิจฉาชีพได้มีการจ่ายเงินซื้อ โฆษณาหรือเว็บไชค์ปลอมมาแสดงอยู่ในลำดับต้นๆ หรือสามารถเข้าถึงผู้ใช้แพลตฟอร์มเป็นจำนวนมาก มีการปลอมยอดผู้ติดตามหรือยอดไลท์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือทำให้มีประชาชนที่ถูกหลอกลวงออนไลน์ต้องการแจ้งความกับเข้าหน้าที่กดเข้าไปในลิงค์หรือเว็บไซต์ปลอม ถูกหลอกช้ำช้อนสร้างความเสียหายมากขึ้นไปอีก ดังนั้น

 

หากเกิดข้อสงสัยหรือต้องการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ขอให้สืบค้นจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube