fbpx
Home
|
อาชญากรรม

เหยื่อร้องป.ถูกหลอกรับซื้อรถติดไฟแนนซ์

Featured Image
ผู้เสียหาย ร้องกองปราบ ถูกพ่อค้าขายของชำ หลอกรับซื้อรถติดไฟแนนซ์ แต่ไม่ยอมผ่อนต่อ

กลุ่มตัวแทนผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับ พ่อค้าร้านขายของชำ หลังตกเป็นเหยื่อถูกหลอกรับซื้อรถ แต่เมื่อซื้อไปแล้ว พ่อค้าคนดังกล่าว กลับไม่ยอมผ่อนต่อ และเชิดรถหนีไป มีคนตกเป็นเหยื่อไม่น้อยกว่า 11 คน รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท

นายวีระพันธุ์ มาลัย หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า ตนเองประกาศขายรถยนต์ฮุนไดผ่านทางเพจเฟซบุ๊กประกาศขายรถยนต์ แล้ว ชายคนดังกล่าว ก็ติดต่อมาขอซื้อ มีการทำสัญญาจะซื้อจะขาย โดยสัญญาว่าจะผ่อนเป็นงวดๆ แต่ไม่ได้ทำการโอนมอบกรรมสิทธิ์ โดยนัดส่งมอบรถกันที่บ้านของพ่อค้ารายดังกล่าว ภายในซอยแจ้งวัฒนะซอย 10 แต่หลังจากส่งมอบรถให้ กลับผ่อนให้เพียง 2 เดือน จากนั้นเดือนที่ 3 เป็นต้นมา ก็เริ่มผิดนัดชำระ และอิดออดไม่ผ่อน ก่อนจะไม่รับโทรศัพท์ ปิดไลน์ ปิดเฟซบุ๊ก เมื่อไปติดตามทวงถาม ก็พบว่า ชายคนดังกล่าวย้ายบ้านหนีไปแล้ว จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน ทำให้บังเอิญเจอกับผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ตกเป็นเหยื่อเช่นเดียวกันเป็นจำนวนมาก โดยแจ้งความกับ สน.บางเขน และสน.ทุ่งสองห้องรวม 11 ราย ยังไม่รวมผู้เสียหายในพื้นที่ต่างจังหวัดอีกหลายรายที่เตรียมเข้าแจ้งความ คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 30 คน

ทั้งนี้ จากการตรวจจับสัญญาณจีพีเอสรถทั้ง 11 คัน พบว่ามีอย่างน้อย 4 คันถูกใช้งานในพื้นที่นครราชราชสีมา นนทบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี ส่วนบางคันถูกนำไปจำนำในเต็นท์รถมือสองย่านดอนเมือง และชลบุรี ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่า พ่อค้าขายของชำ รายนั้น เมื่อได้รถไปแล้วก็จะนำไปขายในราคาถูก หรือไม่ก็นำไปจำนำ และมีการทำเป็นขบวนการ

อย่างไรก็ตามผู้เสียหายก็ยอมรับว่าพวกของตนเองก็มีส่วนผิดที่นำรถติดไฟแนนซ์ไปขาย แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้มีปัญหาด้านการเงิน จึงจำเป็นต้องขายรถออกไป คนร้ายจึงอาศัยช่วงสถานการณ์นี้ซ้ำเติม จึงอยากเตือนคนทั่วไปอย่าพลาดแบบตนเอง ขายรถติดไฟแนนซ์ต่อบุคคลที่ 3 โดยเด็ดขาด และวอนขอให้ชายคนดังกล่าวนำรถกลับมาคืนให้

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube