รมช.พาณิชย์ -รมช.มหาดไทย เดินสายตรวจเยี่ยมปัญหามังคุดของเกษตรกรชาวนครศรีธรรมราช
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดการแก้ไขปัญหา มังคุดราคาตกต่ำ อย่างรุนแรง โดยวานนี้ และวันนี้หลายพื้นที่ราคาเพียงกิโลกรัมต่ำกว่า 10 บาท โดยยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยว โดยมีราคาต่ำสุดที่ 4 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ค่าเก็บเกี่ยวกิโลกรัมละ 2-3 บาท เกษตรกรได้เพียง 1-2 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น
สำหรับพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีแปลงมังคุดทั้งหมด 96,159 ไร่ กระจายอยู่ในพื้นที่ 21 อำเภอ โดยมีพื้นที่ที่ให้ผลผลิตแล้วจำนวน 90,016 ไร่ และในปี 2564 คาดว่าจะ ให้ผลผลิตในฤดูกาลประมาณ 57,245 ตัน แยกเป็น มังคุดคุณภาพส่งออกปริมาณ 30,340 ตัน มังคุดจำหน่ายภายในประเทศ ปริมาณ 17,746 ตัน และมังคุดตกเกรด ปริมาณ 9,159 ตัน
ส่วนกรณีการหยุดรับซื้อผลผลิตมังคุดโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า จังหวัดได้ขอความร่วมมือ จุดรวบรวมผลผลิต (ล้ง) ให้แจ้งเกษตรกรทราบล่วงหน้า ขณะที่สถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิด-19 นั้น จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวแล้ว รวมทั้งได้ประสานขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ไปยังกรมการค้าภายใน เพื่อช่วยระบายผลผลิตออกนอกพื้นที่ จำนวน 11,000 ตัน เพื่อเป็นค่าบริหารจัดการให้กับจุดรวบรวมผลผลิตในอัตรา 3 บาทกิโลกรัมด้วย
นายสินิตย์ เผยว่าปัญหาหลักเกิดจากผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิดและมาตรการควบคุมป้องกันของทุกประเทศ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีแนวทางมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยกระจายมังคุดในประเทศ คือ1. เชื่อมโยงและกระจายมังคุดออกนอกแหล่งผลิต โดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการแก่ศูนย์กระจายในจังหวัดแหล่งผลิต กก.ละ 3 บาท ซึ่งกรมการค้าภายในโอนเงินให้จังหวัดดำเนินการเพื่อกระจายมังคุดในภาคใต้จำนวน 50,850,000 บาท เพื่อกระจายมังคุดจำนวน 16,950 ตัน ออกนอกแหล่งผลิตอย่างเร่งด่วน 2. สนับสนุนค่าขนส่ง สำหรับผลไม้ที่ส่งขายผ่านไปรษณีย์ จำนวน 200,000 กล่องๆ ละ 10 กก. เพื่อช่วยกระจายผลไม้ 2,000 ตัน โดยได้จัดส่งกล่องพร้อมสติกเกอร์ให้จังหวัดต่างๆ แล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
