Home
|
อาชญากรรม

ศาลทุจริต ยกฟ้อง “รองทินกร” กับพวกไม่ผิด ขอหมายจับ ผู้การนำเกียรติ

Featured Image

 

 

ศาลอาญาคดีทุจริต ยกฟ้องชั้นตรวจฟ้อง รองทินกร’กับพวก 4คนไม่ผิด ปม ขอหมายจับ พล.ต.ต.นำเกียรติ กับพวกคดีฟอกเงินเว็บพนันมินนี่

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบ ถนนเลียบทางรถไฟ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาชั้นตรวจฟ้องคดีอท203/66ที่ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.มนต์ชัย บุญเลิศ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.,ร.ต.อ.ฤทธิ์ธาดา เครือสุข ,พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ เป็นจำเลยในควาามผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ

 

คำฟ้องสรุปว่าจำเลยทั้งสี่ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจได้บังอาจร่วมกันกระทำหรือแบ่งหน้าที่กันทำกระทำความผิดต่อกฎหมายอาญา ด้วยการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแกโจทก์หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหนัาที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และกฎหมายอื่นๆ กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานแห่งชาติ (ศปอส.ตร) ชุดที่ 4 (PCT 4) ได้รับเบาะแสข้อมูลทางลับจากการสืบสวนขยายผลเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์

 

จำเลย รวบรวมพยานหลักฐานและวิเคราะห์เส้นทางการเงินกลุ่มผู้กระทำความผิด และหาข้ออ้างว่าโจทก็ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจตำแหน่งผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาลและเป็นทีมงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการดำรวจแห่งชาติ ซึ่งช่วงขณะเกิดเหตุ เป็นหนึ่งในรายชื่อผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจทีมงานร่วมกับโจทก์ รามถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องในการร่วมกระทำความผิดกับเว็บไชต์ดังกล่าว ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง

 

จำเลยที่ 1,2 ได้สร้างหลักฐานการวิเคราะห์พยานหลักฐานต่างๆ โดยไม่มีข้อมูลชัดเจนแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่เรื่องดังกล่าวหากมีพยานหลักฐานเส้นทางการเงินแล้วย่อมไม่สามารถกระทำการบิดเบือนเส้นทางการเงินที่อ้างว่าเป็นธุรกรรมใดๆ ได้ และหากมีข้อสงสัยก็สามารถเรียกโจทก์กับพวกมาทำการสอบสวนได้โดยง่าย ซึ่งโจทก์ก็เป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ย่อมเคร่งครัดปฏิบัติตามกฎหมายและเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ย่อมไม่สามารถจะหลีกเสี่ยงหลบหนีได้ แต่จำเลยมิได้ดำเนินการใดๆ ที่จะเรียกโจทก์มาให้การชี้แจงหรือหมายเรียกโจทก์มาให้การ กลับทำความเห็นแบบรวบรัด ซึ่งทำให้โจทก์เชื่อว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

 

จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อขอออกหมายจับโจทก์กับเจ้าพนักงานตำรวจอีก 7 คน โดยอ้างว่า โจทก์รับเงินจากพันตำรวจเอกภาคภูมิและมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มของมินนี่ และศาลอาณากรุงเทพใต้ได้ออกหมายจับโจทก์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 7 คน และบุคคลต่างๆ รวม 23 คน

 

ภายหลังจากที่โจทก์ถูกจับกุมตามหมายจับแล้ว โจทก์มียศเป็นพลตำรวจตรีได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในขั้นพนักงานสอบสวน แต่จำเลยที่ 3,4กลับไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งที่ทราบดีว่าโจทก์เป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่และไม่มีพฤติการณ์ที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานหรือมีพฤติการณ์หลบหนี ยิ่งแสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสี่มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงและเป็นการเลือกปฏิบัติแตกต่างกับผู้ต้องหาพลเรือนรายอื่นที่ถูกจับและถูกควบคุมตัวในช่วงเวลาเดียวกันที่จำเลยอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวน จะเห็นได้ว่าการดำเนินคดีโจทก์กับพวกคณะพนักงานสอบสวนได้มีการส่งสำนวนการสอบสวนไปยังปปช.เมื่อวันที่ 17 พ.ย.66 แสดงให้เห็นว่าการดำเนินคดีกับโจทก์และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 7 คน อยู่ในเขตอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตฯมาแต่ต้น

 

แต่จำเลยทั้งสี่มีเจตนาที่จะใช้อำนาจศาลเป็นเครื่องมือในการออกหมายจับและหมายค้น การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการกระทำที่มีเจตนาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก็ให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง เกียรติภูมิ ถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชังจากสังคมและบุคคลใกล้ชิด

 

โดยนัดฟังคำพิพากษาวันนี้ ศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องเพียงพอแก่การวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยทั้งสี่ไม่เป็นความผิดตามฟ้อง กรณีไม่จำต้องรับฟ้องโจทก์ไว้เพื่อไต่สวนมูลฟ้อง ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องชั้นตรวจฟ้อง

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube