fbpx
Home
|
อาชญากรรม

รปภ.หื่น! เปิดกลุ่มลับสื่อลามกเด็ก

Featured Image
ตร.ไซเบอร์ รวบหนุ่ม รปภ. เปิดกลุ่มลับขายสื่อลามกเด็กไทยและต่างชาติ พบตํ่าสุด 6 ขวบ อ้างรสนิยม

 

 

 

 

วันนี้(8 มี.ค. 67) พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว รองผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) ร่วมกันแถลงผลการจับกุมหนุ่ม รปภ. ค้าสื่อลามกเด็กไทยและต่างชาติ โพสต์เชิญชวนผ่านกลุ่มลับบนแฟลตฟอร์มออนไลน์

 

 

 

พ.ต.อ.สุวัฒน์ รอง.ผบก.ตอท. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสจากมูลนิธิ For Freedom International (FF) ว่าพบการกระทำผิดเกี่ยวกับการครอบครองและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสื่อลามกเด็กต่างชาติ โดยพบข้อความที่โพสต์ผ่านแอปพลิเคชัน X เปิดในลักษณะกลุ่มลับ ชื่อ “The boys” และกลุ่ม “gir“ เจ้าหน้าที่จึงเร่งดําเนินการสืบสวนจนพบว่าผู้จัดการบัญชีหรือแอดมิน คือ นายรัฐติพงษ์ อายุ 24 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ปัจจุบันประกอบอาชีพหลักเป็น รปภ. และมีอาชีพเสริมคือการขายคอมพิวเตอร์มือสอง

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุญาตศาลออกหมายค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบนายรัฐติพงษ์ อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจค้นพบของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง เครื่องที่ 1 พบภาพสื่อลามกอนาจารเด็กทั้งหญิงและชายจำนวนมากและ เครื่องที่ 2 ซึ่งใช้เป็นเครื่องหลักในการเปิดกลุ่ม “The boys” และกลุ่ม “gir“ ภายในพบข้อมูลทั้งภาพนิ่งและวิดีโอคลิปอนาจารของเด็กจำนวนมาก มีการจัดเก็บไฟล์ใน Megacloud จำนวนกว่า 10,000 ไฟล์

 

 

 

นอกจากนี้ยังพบว่ามีคลิปอนาจารของเด็กอายุต่ำสุดเพียง 6 ขวบอีกด้วยโดย นายรัฐติพงษ์ ยอมรับว่าตนเองมีพฤติกรรมส่วนตัวและรสนิยมที่ชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จึงได้เข้ากลุ่มเพื่อเสพคลิปอนาจารทั้งเด็กผู้หญิงและผู้ชาย ต่อมาเห็นว่าสามารถทำรายได้ได้ดี จึงได้ออกมาตั้งกลุ่มและเป็นแอดมินเอง เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวพร้อมแจ้งข้อหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเพื่อความประสงค์แห่งการค้า“ จากนั้นนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อวิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

 

ขณะที่ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ เปิดเผยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณี แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ VK ว่า ที่ผ่านมาตํารวจไซเบอร์เคยมีการจับกุมผู้ต้องหาในคดีเรื่องของแอปฯ VK อยู่หลายคดี แต่ไม่สามารถสั่งปิดได้ เนื่องจากเป็นของประเทศรัฐเซีย ต่างจาก เฟซบุ๊ก อินสตราแกม ที่สามารถขอปิดได้

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube