“บิ๊กโจ๊ก” สั่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกแม่สื่อชาวจีน หลัง “พริตตี้สาว” ร้องถูกหลอกแต่งงานคาดเป็นขบวนการล่าลูกชาย
วันนี้(25 ธ.ค. 66) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา น.ส.เนย (นามสมมติ) อายุ 42 ปี พริตตี้สาว เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เพื่อร้องขอให้ช่วยดำเนินคดีกับชาวจีนซึ่งเป็นอดีตสามีของ น.ส.เนย หลังหลอกแต่งงานแต่เมื่อทราบว่าลูกในครรภ์เป็นเพศหญิง ฝ่ายชายบินกลับประเทศและไม่สามารถติดต่อได้อีก โดยล่าสุดพบหญิงไทยตกเป็นผู้เสียหายเพิ่มอีกหลายรายคาดเป็นขบวนการหลอกหญิงไทยแต่งงานหวังได้ลูกชาย
นายเอกภพ กล่าวว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นตนและหลายฝ่ายมองว่าเป็นขบวนการล่าลูกชายของชาวจีน เพราะก่อนหน้านี้ตนได้พูดคุยกับทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ โดยทนายมีเพื่อนที่ทำบริษัททัวร์เกี่ยวกับคนจีน และเพื่อนคนที่ทำทัวร์ก็ยืนยันว่าปัจจุบันนี้มีคนจีนบางกลุ่มมีแนวคิดล่าลูกชาย เนื่องจากผู้หญิงจีนเริ่มแต่งงานยากขึ้น จึงมองหาผู้หญิงในแถบทวีปเอเชีย เช่น หญิงชาวไทย หญิงชาว สปป.ลาว เป็นต้น โดยเมื่อคนกลุ่มนี้มาถึงประเทศไทยก็จะหาหญิงชาวจีน ที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยนานเพื่อมารับหน้าที่เป็นแม่สื่อให้ และติดต่อผู้หญิงไทยโดยอ้างว่ามีญาติหรือนักธุรกิจชาวจีนที่รู้จัก อยากมีครอบครัวกับหญิงไทย อยากแต่งงานกับหญิงไทย ก่อนเริ่มมีการประสานพูดคุยกัน
ด้าน น.ส.เนย เล่าวว่า ตนรู้จักกับฝ่ายชายผ่านแม่สื่อชาวจีนซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดเดียวกัน โดนเขาแนะนําว่าฝ่ายชายเป็นนักธุรกิจอายุ 42 ปี ไว้ใจได้ ตนจึงตัดสินใจลองพูดคุยก่อนจะนัดเจอกันครั้งแรกช่วงเดือนมิถุนายน ก่อนที่ฝ่ายชายเดินทางกลับประเทศจีน แต่ยังติดต่อพูดคุยกันผ่านวีแชท ก่อนเตรียมแต่งงานกันในเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่อดีตสามีได้ขอเลื่อนไปเดือนตุลาคมเพื่อขอรู้เพศของลูกในครรภ์ แต่เมื่อรู้ว่าเป็นเพศหญิงเขาอ้างว่ายังไม่พร้อม หลังจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ฝ่ายชายเริ่มไม่ตอบแชทและไม่สามารถติดต่อได้อีก ซึ่งตอนนี้ตนตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนแล้ว กําหนดคลอดเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า แต่อาจคลอดก่อนกำหนดได้ เพราะมีความเครียดสูงจากเรื่องที่เกิดขึ้น
ส่วนแม่สื่อชาวจีนหลังเกิดเรื่องได้พูดคุย แต่เขาอ้างว่าเป็นแค่คนแนะนําให้จะมีความผิดได้อย่างไร ซึ่งล่าสุดแม่สื่อรายนี่ก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว นอกจากนี้ตนเพิ่งทราบด้วยว่ามีหญิงไทย 2 ราย ในคอนโดนเดียวกันถูกแม่สื่อรายนี้พยายามแนะนําชายจีนให้อีกด้วย
ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า แม้ชาวจีนจะเป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทย แต่ก็มีคนจีนที่เข้ามาประกอบอาชีพผิดกฎหมายในไทยเยอะมาก ซึ่งตนก็ได้กำชับตำรวจ ตม. ให้ตรวจสอบการเดินทางเข้า-ออกของชาวจีนในราชอาณาจักรไทย รวมถึงพฤติกรรมของจีนเทาและจีนดำ เพราะถึงแม้การปราบปรามอาชญากรรมเรื่องการอุ้มบุญจะเริ่มคลี่คลายลงจากการบังคับใช้กฎหมายอุ้มบุญ แต่ขบวนการนี้ก็มีแผนประทุษกรรมใหม่ๆที่หลบเลี่ยงการถูกดำเนินคดีเสมอ อย่างไรก็ตาม ในเคสนี้ ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด และจะรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายเรียกแม่สื่อชาวจีนรายนี้ เพื่อสอบถามข้อมูลทั้งหมด หากพบความผิดจะพิจารณาเอาผิดทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน เพื่อไล่เรียงพฤติการณ์ รวมถึงจะเรียกสอบปากคำพยานที่พักอาศัยในคอนโดดังกล่าวที่เคยถูกแม่สื่อจีนรายนี้ชักชวนด้วยในลักษณะดังกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
